คิดถึงป่า
ชวนทุกคนมาร่วมกันคืนป่าภูฝอยลม ป่าต้นน้ำ จ.อุดรธานีที่ตอนนี้มีป่าไม้เหลือเพียง 10 % จาก 200,000 ไร่
ระยะเวลาโครงการ 1 ปี พื้นที่ดำเนินโครงการ อุดรธานี
ยอดบริจาคขณะนี้
115,178 บาทเป้าหมาย
100,000 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
ความคืบหน้าโครงการคิดถึงป่า
กลุ่มอาสาสมัคร คิดถึงป่า ได้จัดกิจกรรม “คืนฝืนป่าสู่ภูฝอยลม” ขึ้นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าพันดอน-ป่าพะโค ในเขต อ.หนองแสง จ.อุดรธานี โดยมีกิจกรรมเปิดป่าเมื่อวันที่ 6-8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีผู้มาร่วมงานหมุนเวียนทุกวันไม่ต่ำกว่า 600 คน โดยได้รับเกียรติจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้เกียรติเปิดป่า รวมถึงท่านนายอำเภอหนองแสง ท่านนายก อบต.ทับกุง และผู้บริการจากสำนักงานป่าไม้อุดรธานี สื่อมวลชน รายการโทรทัศน์ ศิลปิน เข้าร่วมเปิดงานอีกด้วย
ในวันดังกล่าวกลุ่มอาสาสมัครคิดถึงป่า ได้วางพื้นที่ในตอนแรกไว้เพียง 10 ไร่ แต่ตลอดระยะเวลาสามวัน กลุ่มคิดถึงป่า สามารถเพิ่มพื้นที่ป่าได้ถึง 15 ไร่ โดยปลูกต้นไม้ป่า ไม้เบญจพรรณ ไม้ผล ไม้ดอก และต้นกล้วยสำหรับการบริบาล ได้มากถึง 3000 ต้น ซึ่งใช้สูตรการปลูกลักษณะ 2 x 2 เมตร + พี่เลี้ยง 1 ต้น
ก่อนจัดกิจกรรมลงป่า จะมีการสอนวิธีการปลูกที่ถูกต้อง เพื่อลดการสูญเสีย แห้งตาย และไม่สร้างขยะให้ธรรมชาติ รวมถึงให้อาสาสมัครได้เตรียมแปลงเองทั้งหมด ตั้งแต่ตัดหญ้าคา ไผ่เพ็ก ถางหญ้าปากหลุม ขุดหลุมเองทั้งหมดอีกด้วย
อาสาสมัครร่วมกันถางหญ้า ตัดหญ้า
ต้นกล้าทั้งพืชไม้ พืชผล ต้นกล้วย ต้นพะยูง ฯลฯ
อาสาสมัครร่วมกันย้ายต้นกล้าเพื่อนำไปปลูกป่า
อาสาสมัครร่วมกันปลูกป่า
และหลังจากการจัดงาน “คิดถึงป่า” ก็ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครที่จะดูผืนป่าปลูกใหม่แห่งนี้ไปตลอด 3 ปี โดยมีการวางแผนในการขึ้นมาดูแลป่าในช่วงฤดูฝนทุกเสาร์-อาทิตย์ และช่วงหมดฝน เดือนละ 1 ครั้ง
แผนการดูแลป่าตลอดหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา อาสาสมัครได้ขึ้นไปยังแปลงปลูกในทุกสัปดาห์ เพื่อซ่อมแปลง คือการปลูกเสริมต้นไม้ที่ตาย ดายหญ้า ตัดต้นหนามที่ขึ้นรก ในพื้นที่ 15 ไร่ที่มีการปลูกไปแล้ว รวมถึงการขยายพื้นที่แล้วปลุกเพิ่มอีกด้วย โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่มีการรับบริจาคเพิ่มเติม แต่ให้งบประมาณจากโครงการคิดถึงป่าที่มีการรับบริจาคก่อนมีกิจกรรม และตอนนี้มีการปลูกในระยะเวลาเดือนกว่าๆ ไปแล้วถึง 30 ไร่ ใช้ต้นไม้ประมาณ 10,000 ต้น และพื้นที่ใกล้เคียงอีก 9 ไร่ ใช้ต้นไม้อีก 2,000 ต้น รวมทั้งหมด 39 ไร่ 12,000 ต้นและในระยะหมดฝน (ประมาณเดือนกันยายน เป็นต้นไป) อาสาสมัคร “คิดถึงป่า” จะทำการขึ้นป่าทุกเดือนๆ ละ 1 ครั้ง เพื่อสร้างแนวกันไฟ ตลอดพื้นที่ป่าที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมป่าไม้มา 100 ไร่ เพื่อป้องกันไฟป่า และควบคุมไฟป่าให้ได้ โดยมีการจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องยนต์หนักโดยงบประมาณของอาสาสมัครภาคประชาชน ในการเข้าทำแนวกันไฟ เพื่อปกป้องผืนป่า และอาสาสมัครจะเข้าตัดหญ้าคาด้วยเครื่องตัดหญ้า ซึ่งหญ้าคาขึ้นเต็มผืนป่า บดบังต้นไม้ และเป็นเชื้อไฟได้อย่างดี ในยามแห้งแล้งและไฟป่าเกิดขึ้นมา โดยอาสาสมัครจะทำในลักษณะนี้ ตลอดเวลา 2-3 ปี หรือจนกว่าป่าจะสามารถดูแลตัวเองได้
ภายหลังกิจกรรม “คิดถึงป่า” เราสามารถสร้างอาสาสมัครเพื่อสร้างผืนป่าโดยภาคประชาชน โดยกลุ่มคิดถึงป่าให้การสนับสนุน และเป็นเครือข่ายพิ่มเติมจากที่อุดรธานีในปีนี้ คือ ทีมปลูกป่ามหาสารคาม และ ทีมปลูกป่าสระแก้ว รวมถึงฤดูฝนปีหน้ากับทีมปลูกป่าชัยภูมิ ซึ่งทุกทีมมีเป้าหมายและภารกิจเดียวกันคือ สร้างผืนป่าทั่วแผ่นดิน โดยภาคประชาชน และจะใช้ Model การปลูกป่าในวิธีเดียวกัน คือ สร้างป่า และเติมเต็มระบบนิเวศอย่างแท้จริง
ขอบคุณครับ
คชานนท์ แข็งการ
อ่านต่อ »ที่มา/ความสำคัญโครงการ
ป่าภูฝอยลม เป็นป่าต้นน้ำแห่งทะเลบัวแดง และเขื่อนห้วยหลวง ที่หล่อเลี้ยงคน จ.อุดรธานี และคนในแทบภาคอีสานเกือบทั้งหมด
แต่ทราบหรือไม่ !!!
ต้นไม้ในป่าภูฝอยลมเหลือเพียง 10 % จาก 200,000 ไร่
ไม้เบญพรรณ ไม้แดง ไม้ตะเคียนทอง พะยูง แทบไม่หลงเหลืออยู่ในป่าต้นน้ำแห่งนี้ หากนับดูส่วนใหญ่กับเป็นไม้กระถิน หญ้าคาที่แม้จะปลูกง่ายและโตไว ทว่ากลับส่งผลกระทบต่อผืนป่า เนื่องจากเป็นต้นที่ลำต้นแห้ง จึงง่ายต่อการติดไฟ และเมื่อช่วงฤดูร้อนไม้เหล่านี้ก็ติดไฟจนคาดการณ์ว่าเผาทำลายผืนป่าภูฝอยลมไปเกือบหมื่นไร่
ครั้งนี้ทีม sanook.com, เจ เจตริน, กองบุญกับพี่ต้าร์และwww.taejai.com จึงอยากชวนคนมาคืนผืนป่าภูฝอยลม โดยการปลูกคนไม้ 3,500 ต้น ในพื้นที่ 10 ไร่ ที่เราไม่ได้เพียงแค่ไปปลูกแล้วกลับมา หากเราจะช่วยกันจัดเวรยามเพื่อดูแลผืนป่าเป็นเวลา 1 ปีเต็ม เพื่อให้มั่นใจว่า ต้นไม้ที่เราไปปลูกและมันรอด!!!
เราจะทำการปลูกใน 2 โมเดล นั่นคือ
- โมเดลเพียอินทร์ ที่พระอาจารย์จากวัดถ้ำเพียอินทร์ ประสบความสำเร็จจากเปลี่ยนป่าหญ้าคา กลายเป็นป่าสมบูรณ์ในระยะเวลากว่า 8 ปี สำหรับโมเดลจะเป็นการนำไม้เบญจพรรณลงไปปลูกแทรกกับไม้เดิม เพิ่มด้วยการปลูกกล้วยที่จะช่วยให้ดินอุ้มน้ำได้ดี และไม้ผลสำหรับสัตว์ป่าไว้หากิน
- โมเดลน้ำจิ้น สำหรับป่าที่ไม่ต้นไม้ เราจะทำการไถ่กลบและนำต้นกล้า ไม้เบญพรรณ ไม้แดง ไม้ตะเคียนทอง พะยูง มะค่า สัก ต้นไม้ผล ต้นกล้วยเพชรบุรี ไปปลูก
และเราจะรวมกับชุมชน วัด ดูแลผืนป่าแห่งนี้ เช่นกรณีน้ำแล้ง เรานำน้ำที่มีแผนการขุดบ่อไปรด การดูแลโดยหาปุ๋ยไปใส่เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตแบบแข็งแรง
ประโยชน์ของโครงการ
- ป่าภูฝอยลมมีผืนป่าเพิ่มขึ้นกว่า 10 ไร่
- ปรับผืนป่าให้มีความหลากหลายของพันธุ์ไม้มากขึ้น เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับสัตว์ป่าเดิม
- มีแนวทางที่ชัดเจนในการดูแลป่าตลอดระยะเวลา 1 ปี
- ป่ามีแนวกันไฟ และยังมีชุมชนและวัดช่วยกันดูแล
กิจกรรมที่จะดำเนินโครงการ
ปลูกไม้หลัก ปลูกต้นกล้วย แซมไม้ผล มีการจ้างคนดูแล เฝ้าป่าอ่อน ถางหญ้า เพื่อป้องกันไฟ ดูแลต่อเนื่องนาน 1 ปี
- ก่อนปลูกจำเป็นต้องเคลียร์พื้นที่ต้นไม้รก เก่าที่เป็นเชื้อไฟออกก่อน ค่าเคลียร์พื้นที่ 5,000 บาท/ไร่
- เตรียมต้นกล้า ประกอบด้วย
- ต้นกล้า 200 ต้น/ไร่ (ไม้เบญพรรณ ไม้แดง ไม้ตะเคียนทอง พะยูง มะค่า สัก)
- ต้นไม้ผล (สำหรับสัตว์ป่า) เฉลี่ยต้นละ 50-100 บาท ใช้ 50 ต้น/ไร่ รวม 5,000 บาท
- ต้นกล้วยเพชรบุรี (สำหรับบริบาล และคลุมหญ้า) 100 ต้น/ไร่ ต้นละ 80 บาท รวม 8,000 บาท/ไร่
- ค่าดูแลตลอดระยะเวลา 1ปี การไถ่ การกวาดแนวกันไฟ เหมาจ่าย 20 บาท/ต้น ทั้งหมด 250 ต้น (ไร่ละ 5000 บาท)
*ในกรณีฝนไม่ตก เราจะรดน้ำ และจะรดน้ำอย่างไร? :: การปลูกป่า เราจะทำแนวกันไฟเป็นระยะๆ
แนวกันไฟคือ “การไถกดทำถนน โดยรถไถ” ถนนนั้นจะมีประโยชน์คือ เป็นทั้งแนวกันไฟ เป็นทั้งแนวรถ เพื่อนำน้ำเข้ามาดับไฟยามมีไฟป่า และรดน้ำต้นอ่อนในกรณีแห้งแล้ง และความชื้นในป่าที่ปลูกสมบูรณ์แล้วจะคอยดูแลต้นอ่อนได้
ตารางการทำกิจกรรม 6-8 กรกฎาคม 2559
วันที่ 6
- 6:00 น. เจอกันที่ จ.อุดรธานี ทานอาหารเช้า
- 7:00 น. ขนอุปกรณ์เข้าพื้นที่ เรียนรู้วิธีการปลูก
- 8:00-12:00 น. ขุด ปลูกต้นกล้า
- 12:00 น. ทานข้าวเที่ยง
- 13:00-16:00 น. ขุด ปลูกต้นกล้า
- 16:00 น. เข้าที่พัก
- 18:00 น. ทานมื้อเย็น พักผ่อนตามอัธยาสัย
วันที่ 7
- 8:00-12:00 น. ทานอาหารเช้า ขุด ปลูกต้นกล้า
- 12:00 น. ทานข้าวเที่ยง
- 13:00-16:00 น. ขุด ปลูกต้นกล้า
- 16:00 น.เข้าที่พัก
- 18:00 น.ทานมื้อเย็น พักผ่อนตามอัธยาสัย
วันที่ 8
- 8:00 น. ทานอาหารเช้า และร่วมถ่ายภาพหมู่
- 9:00 น. เดินทางกลับกรุงเทพฯ
- 17:00 น. ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
สมาชิกภายในทีม
Sanook Page :www.sanook.com/misstheforest
Joox Playlist: http://music.sanook.com/playlist/15609/
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/MissTheForest
ความคืบหน้าโครงการคิดถึงป่า
กลุ่มอาสาสมัคร คิดถึงป่า ได้จัดกิจกรรม “คืนฝืนป่าสู่ภูฝอยลม” ขึ้นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าพันดอน-ป่าพะโค ในเขต อ.หนองแสง จ.อุดรธานี โดยมีกิจกรรมเปิดป่าเมื่อวันที่ 6-8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีผู้มาร่วมงานหมุนเวียนทุกวันไม่ต่ำกว่า 600 คน โดยได้รับเกียรติจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้เกียรติเปิดป่า รวมถึงท่านนายอำเภอหนองแสง ท่านนายก อบต.ทับกุง และผู้บริการจากสำนักงานป่าไม้อุดรธานี สื่อมวลชน รายการโทรทัศน์ ศิลปิน เข้าร่วมเปิดงานอีกด้วย
ในวันดังกล่าวกลุ่มอาสาสมัครคิดถึงป่า ได้วางพื้นที่ในตอนแรกไว้เพียง 10 ไร่ แต่ตลอดระยะเวลาสามวัน กลุ่มคิดถึงป่า สามารถเพิ่มพื้นที่ป่าได้ถึง 15 ไร่ โดยปลูกต้นไม้ป่า ไม้เบญจพรรณ ไม้ผล ไม้ดอก และต้นกล้วยสำหรับการบริบาล ได้มากถึง 3000 ต้น ซึ่งใช้สูตรการปลูกลักษณะ 2 x 2 เมตร + พี่เลี้ยง 1 ต้น
ก่อนจัดกิจกรรมลงป่า จะมีการสอนวิธีการปลูกที่ถูกต้อง เพื่อลดการสูญเสีย แห้งตาย และไม่สร้างขยะให้ธรรมชาติ รวมถึงให้อาสาสมัครได้เตรียมแปลงเองทั้งหมด ตั้งแต่ตัดหญ้าคา ไผ่เพ็ก ถางหญ้าปากหลุม ขุดหลุมเองทั้งหมดอีกด้วย
อาสาสมัครร่วมกันถางหญ้า ตัดหญ้า
ต้นกล้าทั้งพืชไม้ พืชผล ต้นกล้วย ต้นพะยูง ฯลฯ
อาสาสมัครร่วมกันย้ายต้นกล้าเพื่อนำไปปลูกป่า
อาสาสมัครร่วมกันปลูกป่า
และหลังจากการจัดงาน “คิดถึงป่า” ก็ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครที่จะดูผืนป่าปลูกใหม่แห่งนี้ไปตลอด 3 ปี โดยมีการวางแผนในการขึ้นมาดูแลป่าในช่วงฤดูฝนทุกเสาร์-อาทิตย์ และช่วงหมดฝน เดือนละ 1 ครั้ง
แผนการดูแลป่าตลอดหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา อาสาสมัครได้ขึ้นไปยังแปลงปลูกในทุกสัปดาห์ เพื่อซ่อมแปลง คือการปลูกเสริมต้นไม้ที่ตาย ดายหญ้า ตัดต้นหนามที่ขึ้นรก ในพื้นที่ 15 ไร่ที่มีการปลูกไปแล้ว รวมถึงการขยายพื้นที่แล้วปลุกเพิ่มอีกด้วย โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่มีการรับบริจาคเพิ่มเติม แต่ให้งบประมาณจากโครงการคิดถึงป่าที่มีการรับบริจาคก่อนมีกิจกรรม และตอนนี้มีการปลูกในระยะเวลาเดือนกว่าๆ ไปแล้วถึง 30 ไร่ ใช้ต้นไม้ประมาณ 10,000 ต้น และพื้นที่ใกล้เคียงอีก 9 ไร่ ใช้ต้นไม้อีก 2,000 ต้น รวมทั้งหมด 39 ไร่ 12,000 ต้นและในระยะหมดฝน (ประมาณเดือนกันยายน เป็นต้นไป) อาสาสมัคร “คิดถึงป่า” จะทำการขึ้นป่าทุกเดือนๆ ละ 1 ครั้ง เพื่อสร้างแนวกันไฟ ตลอดพื้นที่ป่าที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมป่าไม้มา 100 ไร่ เพื่อป้องกันไฟป่า และควบคุมไฟป่าให้ได้ โดยมีการจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องยนต์หนักโดยงบประมาณของอาสาสมัครภาคประชาชน ในการเข้าทำแนวกันไฟ เพื่อปกป้องผืนป่า และอาสาสมัครจะเข้าตัดหญ้าคาด้วยเครื่องตัดหญ้า ซึ่งหญ้าคาขึ้นเต็มผืนป่า บดบังต้นไม้ และเป็นเชื้อไฟได้อย่างดี ในยามแห้งแล้งและไฟป่าเกิดขึ้นมา โดยอาสาสมัครจะทำในลักษณะนี้ ตลอดเวลา 2-3 ปี หรือจนกว่าป่าจะสามารถดูแลตัวเองได้
ภายหลังกิจกรรม “คิดถึงป่า” เราสามารถสร้างอาสาสมัครเพื่อสร้างผืนป่าโดยภาคประชาชน โดยกลุ่มคิดถึงป่าให้การสนับสนุน และเป็นเครือข่ายพิ่มเติมจากที่อุดรธานีในปีนี้ คือ ทีมปลูกป่ามหาสารคาม และ ทีมปลูกป่าสระแก้ว รวมถึงฤดูฝนปีหน้ากับทีมปลูกป่าชัยภูมิ ซึ่งทุกทีมมีเป้าหมายและภารกิจเดียวกันคือ สร้างผืนป่าทั่วแผ่นดิน โดยภาคประชาชน และจะใช้ Model การปลูกป่าในวิธีเดียวกัน คือ สร้างป่า และเติมเต็มระบบนิเวศอย่างแท้จริง
ขอบคุณครับ
คชานนท์ แข็งการ
แผนการใช้เงิน
| รายการ | ราคารวม (บาท) |
|---|---|
|
500,000 |
| รวมเป็นเงินทั้งหมด | 500,000 |
