project เด็กและเยาวชน กลุ่มคนเปราะบาง

โรงเรียนเพื่อชีวิต ให้เด็กๆ ได้รับการศึกษา โภชนาการ ทักษะชีวิต โดยมูลนิธิพันธกิจพระพร (ไทย)

สนับสนุนอาหารกลางวัน และการฝึกทักษะอาชีพ สำหรับโครงการโรงเรียนเพื่อชีวิต โดยมูลนิธิพันธกิจพระพร (ไทย) เพื่อให้เด็กๆ ได้รับการศึกษา โภชนาการ ทักษะชีวิต และจริยธรรมที่เหมาะสม รวมถึงสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กๆ เพื่อลดปัญหาด้านพฤติกรรมและสังคม

Duration 1 ปี Area โครงการโรงเรียนเพื่อชีวิต อ.เมือง จ.นครราชสีมา

Current donation amount

157,270 THB

Target

413,116 THB
ดำเนินการไปแล้ว 38%
จำนวนผู้บริจาค 78

สำเร็จแล้ว

Project updates

จัดกิจกรรมให้น้องๆในโครงการ School of Life จำนวน 37 คน

7 February 2023

กิจกรรมที่ทางโครงการจัดทำ

ติวข้อสอบ ให้เด็กๆ ทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี เวลา 17.00 น. - 19.00 น. เริ่มเด็กทานข้าว พี่เล่นเกมส์ภาษาอังกกฤษ แล้วแยกกลุ่มตามระดับช่วงชั้น แต่ละช่วงชั้นมีคุณครู 1 คน ยกเว้นช่วงชั้น ป.6- ม.2 มีครู 2 คน โดยจะเน้นสอนให้เด็กทำการบ้านให้เสร็จก่อน จากนั้นคุยกับน้องๆในวิชาที่อยากเรียนหรือมีปัญหาวิชาไหน แล้วจะสอนสัปดาห์ละวิชา ประกอบด้วยวิชาคณิต อังกฤษ ไทย ดังนี้

  • อนุบาล 1, ประถมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 7 คน
  • ประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 11 คน
  • ประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 คน
  • ประถมศึกษาปีที่ 6 - มัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 12 คน
  • รวมทั้งสิ้น 37 คน

ก่อนทำกิจกรรม - เด็กหลายคนผลการเรียนไม่ดี เพราะเด็กที่มาเรียนส่วนมากเป็นเด็กโรงเรียนขนาดเล็ก พ่อแม่ไม่มีเงินส่งลูกเรียนพิเศษ ผู้ปกครองมีรายได้น้อย ส่วนใหญ่ผู้ปกครองมีอาชีพรับจ้าง ผู้ปกครองสอนลูกไม่ได้ เนื่องจากพ่อแม่ไม่รู้หนังสือ บางคนทำงานจนไม่มีเวลามาสอนลูก เด็กหลายคนอ่านหนังสือไม่ได้ คณิตเห็นโจทย์ทำไม่ได้

หลังทำกิจกรรม - ผลการเรียนมีการเรียนดีขึ้นมาก ผู้ปกครองไว้วางใจทางคริสตจักรมากขึ้น เด็กมีความมั่นใจมากขึ้น

ซุปเปอร์บุ๊ค ทุกวันเสาร์ ตอนเช้า เวลา 10.00 น. - 11.00 น. สอนคุณธรรมจริยธรรม

ก่อนทำกิจกรรม - เด็กๆ ไม่เคยได้เรียนจริยธรรมผ่านการ์ตูน เด็กพูดคำหยาบ ทะเลาะกัน ถ้าสอนในหนังสือ เด็กจะเบื่อง่ายไม่ค่อยตั้งใจฟัง

หลังทำกิจกรรม - เด็กๆ สนุกและตั้งใจเรียนผ่านการ์ตูนซุปเปอร์บุ๊ค เด็กได้เรียนรู้เรื่องจริยธรรมผ่านการ์ตูน เขาซึมซับเนื้อหาที่เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องราว เด็กเข้าใจง่าย เด็กระมัดระวังในการพูด เช่น โกรธก็โกรธเถอะแต่อย่าทำบาป เห็นพฤติกรรม เด็กมีการคืนดีกัน ให้อภัยกันง่ายขึ้น และยังเห็นเด็กช่วยเหลือกัน และแบ่งปันกัน

กิจกรรมยุวยาตราประเทศไทย เป็นกิจกรรมลูกเสือคริสเตียน ทุกวันเสาร์ เวลา 11.00 น. – 12.00 น. เน้นการพัฒนาเด็ก 4 ด้าน จิตวิญญาณ ร่างกาย สติปัญญา สังคม

  • ด้านร่างกาย เน้นเรียนผ่านการเล่นเกมส์ ฝึกวินัย เช่นระเบียบแถว ฝึกการยืนให้ตรง เหมือนวิชาลูกเสือ
  • สังคม อารมณ์ เด็กเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน การทำงานด้วยกัน การช่วยเหลือกัน ผ่านกิจกรรมต่างๆ
  • ด้านสติปัญญา อาทิ สอนเรื่องยาเสพติด ให้เด็กรู้จักยาเสพติดประเภทต่างๆ โทษของยาเสพติด สอนเกี่ยวกับนักดับเพลิง ให้เด็กรู้จักวิธีที่จะป้องกันตนเอง บางทีพาไปที่ศูนย์รถดับเพลิง เพื่อเรียนรู้จากเจ้าหน้าที่ที่หน่วยดับเพลิง สอนวิชาช่างซ่อมจักรยาน โดยเอาน้องที่เคยจบกิจกรรมยุวยาตราหรือครู มาสอนการซ่อมจักรยานเบื้องต้น คอมพิวเตอร์ ให้เด็กเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น - แต่ละสัปดาห์ก็จะเรียน 1 หัวข้อ
  • ด้านจิตวิญญาณ - เน้นผ่านเกมส์ หรือการแบ่งปัน

ก่อน – เด็กส่วนมากอยู่กับโทรศัพท์ไม่สนใจคนรอบข้าง อยู่กับเกมส์ ไม่มีวินัย

หลัง – ดึงเด็กออกจากโทรศัพท์จากเล่นเกมส์ ทำให้เขามีสังคม มีเพื่อนที่ดี มีกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เด็กมีวินัย เด็กมีทักษะชีวิต

วันเสาร์ - สอนดนตรี เด็กเลือกเอง เปียโน กีต้าร์ กลอง เวลา 13.00 น.-14.00 น.

ก่อน - เด็กชอบดนตรี แต่ไม่มีอุปกรณ์เล่น ไม่มีคนสอนว่าต้องเล่นอย่างไร

หลัง – เด็กได้ตัดสินใจเองในสิ่งที่ตนเองชอบ เด็กสามารถเล่นดนตรีบนได้เวทีได้เอง เวลาที่คริสตจักรจัดกรรม เช่น วันคริสตมาส

วันเสาร์ - เกษตร เด็กเลือกเอง ว่าจะเลี้ยงไก่ ปลูกผักสลัด ผักสวนครัว จัดสวน มีผู้ปกครองที่มีอาชีพจัดสวนที่จะสอนให้เด็กๆ แล้วนำผลผลิตมาทำอาหาร

ก่อน - เด็กชอบ แต่ไม่รู้จะทำการเกษตรอย่างไร ทำการเกษตรให้ต่อเนื่องอย่างไร

หลัง - เด็กมีความรับผิดชอบ ดูแลจนไข่ไก่ก็ได้ออกมาขาย และเอาไข่ไปขาย รู้วิธีการขาย

วันเสาร์ - เด็กเลือกเอง ทำอาหาร/เบเกอรี่ เช่น ทำคุกกี้ ส้มตำ เค้ก ก๋วยเตี๋ยว

ก่อน - เด็กชอบ แต่ไม่มีอุปกรณ์ทำ ไม่มีคนสอน

หลัง - เด็กสนใจ ทำได้ เด็กๆได้ทำขนมเลี้ยงแขกในวันคริสตมาส เด็กได้แบ่งให้เพื่อนๆกิน

จัดค่ายอนุรักษ์ธรรมชาติ - ไปดูช่วยกันดูแลรักษาป่าที่อุดมสมบูรณ์ มันกำลังจะหายไป เน้นไม่ให้เด็กไปทำลาย ค่าย-เน้นฝึกทักษะอาชีพ เป้าหมายให้เด็กเรียนรู้คุณค่าของเงิน และการอยู่รวมกันในครอบครัว การวางแผนเรื่องการเงิน การหาเลี้ยงมาเลี้ยงคนในครอบครัว ให้เด็กให้เข้าพ่อแม่เรื่องการหารายได้ว่ามันยากลำบากแค่ไหน

ก่อน – เห็นว่าเด็กๆ อยู่อย่างสุขสบาย พ่อแม่ทำทุกอย่างให้ ถ้าวันหนึ่งไม่มีคนอยู่ เขาต้องทำเองต้องทำอย่างไร อยากฝึกเด็ก เตรียมเด็กให้รู้จักเอาชีวิต ให้เขาลองการใช้ชีวิต

หลัง - เด็กเข้าใจพ่อแม่มากยิ่งขึ้น เขามีความเห็นอกเห็นใจกัน ห่วงใย ในกลุ่ม (เพราะแต่ละกลุ่มแสดงเป็นครอบครัว) เด็กมีเวลาพูดคุย สร้างความสัมพันธ์กันขึ้นระหว่างเด็กเล็กกับพี่ๆ เด็กได้เข้าใจความยากลำบากการหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว การเอาตัวรอดในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เช่น จะก่อไฟอย่างไร การทำอาหารจะต้องทำอย่างไร

ความประทับใจผู้ที่ได้รับประโยชน์

คำขอบคุณของน้องๆจากโครงการ


เด็กหญิงปพิชญา กุดดอน ชอบการเข้าร่วมโครงการโรงเรียนเพื่อชีวิต เพราะได้ติววิชาที่น้องไม่ถนัด ได้เรียนภาษาอังกฤษ เรียนดนตรี ทำเกษตร ทำอาหาร สอนให้เรารักซึ่งกันและกัน เป็นคนดี

นางภิรมย์ญา จ้อยจังหรีด ให้ลูกเข้าร่วมโครงการพบว่า น้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ใจเย็นขึ้น มีสมาธิ เรียนดีขึ้น คะแนนวิชาภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ ดีขึ้น มีพัฒนาการโดยรวมดีขึ้น มีเพื่อนมาก

รูปภาพกิจกรรม

พี่สอนน้องทำการบ้าน

พี่อาสาเสิร์ฟอาหารน้อง

ครูสอนจริยธรรมเด็กๆ ผ่านการ์ตูน

เด็กๆเรียนรู้การปลูกผักแบบธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี

เด็กๆฝึกการทำขนม

เด็กๆได้ฝึกกีต้าร์ กับพี่ๆอาสา 

Read more »
See all project updates

ปัญหาสังคมและวิธีการแก้ไขปัญหา

โครงการโรงเรียนเพื่อชีวิต School of Life เริ่มเมื่อปีพ.ศ. 2550 ในชุมชนต่างๆ โดยทำงานผ่านศาสนสถานของคริสเตียน เรียกโดยย่อว่า “คริสตจักร” ซึ่งถือเป็นหน่วยสำคัญในท้องถิ่นต่าง ๆ ในการที่จะเข้าถึงชุมชนด้วยหลากหลายวิธีการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพันธกิจด้านเด็กและเยาวชน เพื่อช่วยเหลือเด็กๆที่มีปัญหาครอบครัวแตกต่างกันออกไป เช่น พ่อแม่แยกทาง อาศัยอยู่กับปู่ย่า ตายาย เด็กๆที่พ่อแม่ไปทำงานและไม่มีเวลาดูแล เรื่องการบ้าน การเรียน รวมถึงเด็กที่มีปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น ก้าวร้าว ไม่เชื่อฟัง ไม่สนใจเรียน เป็นต้น



มูลนิธิฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่คริสตจักร จัดกิจกรรมโครงการโรงเรียนเพื่อชีวิตขึ้น โดยทำการจัดหาครู พี่เลี้ยงที่ได้รับการอบรมด้านการดูแลเด็กๆ เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับเด็กๆ สอนการบ้าน ติวสอบ ให้คำแนะนำ กิจกรรมจะจัดขึ้นในวันเสาร์ นอกจากนั้นยังมูลนิธิยังเตรียมอาหาร ของว่างให้เด็กได้รับโภชนาการที่ดี นอกจากได้อิ่มท้อง ได้เรียนด้านวิชาการ เรียนจริยธรรม ได้ฝึกทักษะอาชีพ กิจกรรมที่สนุก และเสริมสร้างศักยภาพเด็ก จากการจัดกิจกรรมทำให้เด็กๆ หลายคนเปลี่ยนแปลง เช่น ตั้งใจเรียน ช่วยงานบ้านคุณยาย ไม่ก้าวร้าว พูดเพราะ เลิกติดเกมส์ เป็นต้น ในขณะเดียวกันก็อบรมผู้ใหญ่ เพื่อสร้างความเข้าใจ ความต้องการของเด็กๆ เพื่อนำไปสู่การดูแลเด็กๆที่ถูกต้อง


"โรงเรียนเพื่อชีวิต" เป็นโปรแกรมนอกเวลาเรียน มีวัตถุประสงค์เพื่อ

  • ให้เด็กๆ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
  • ส่งเสริมให้เด็กใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และได้เรียนวิชาการเพิ่มเติม ทักษะชีวิต ดนตรี กีฬา โภชนาการที่ดี
  • ช่วยผู้ปกครองที่ไม่สามารถสอนการบ้านเด็ก เพราะความจำกัดด้านการศึกษา หรือทำงานกลับบ้านค่ำ
  • สร้างเสริมจริยธรรมให้กับเด็กๆ ลดการเกิดปัญหาด้านสังคม และพฤติกรรม

กิจกรรมในโครงการ 

  1. จัดหาอาหารหลัก และอาหารว่างให้เด็กๆ ตามหลักโภชนาการที่ดี
  2. สอนการบ้าน และทบทวนวิชาต่างๆ ให้เด็กมีความเข้าใจในการเรียนมากขึ้น
  3. สอนจริยธรรมในการใช้ชีวิต เพื่อให้เด็กๆ มีการตัดสินใจ เลือกทำทุกสิ่งอย่างถูกต้องมีคุณธรรม
  4. ฝึกทักษะอาชีพเพื่อการต่อยอดในอนาคต
  5. จัดค่ายพัฒนาผู้นำให้เด็ก และอบรมผู้ปกครองเพื่อสร้างความเข้าใจในการเลี้ยงดูเด็กๆ

ขั้นตอนการดำเนินโครงการ

  1. มูลนิธิฯ จัดหาอาหารกลางวันและ อาหารว่างที่ถูกสุขลักษณะให้เด็กสัปดาห์ละ 3-4 มื้อ ในวันที่มีการเปิดโรงเรียนเพื่อชีวิต สำหรับเด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมหลังเลิกเรียน และให้มีการบันทึกสุขภาพเบื้องต้น เช่นน้ำหนักและส่วนสูงของเด็กที่เข้าร่วมโครงการทุก ๆ 3 เดือน
  2. มูลนิธิฯ สนับสนุนให้มีการอบรม ผู้ดำเนินงานโครงการ และอาสาสมัครทุก ๆ ไตรมาสในงานด้านการดูแลเด็กและครอบครัวให้มีสุขภาวะทางกายใจ และจิตวิญญาณ และมีทักษะทางสังคม
  3. มูลนิธิฯ จัดกิจกรรมนอกเวลาเรียนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยแทรกเนื้อหาด้านจริยธรรม ผ่านการใช้กิจกรรมสำหรับเด็ก การชมการ์ตูนทีมีเนื้อหาเสริมสร้างจริยธรรม คุณธรรม และจัดกิจกรรมสุดสัปดาห์สำหรับเด็กในวันเสาร์และอาทิตย์ต่อเนื่อง โดยให้บันทึกความก้าวหน้าของเด็กเป็นระยะ ๆ
  4. จัดให้มีวันสังสรรค์ผู้ปกครองและเด็กอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อให้เด็กที่ร่วมกิจกรรมเชิญพ่อแม่หรือสมาชิกครอบครัวมาร่วมกันทำกิจกรรม และมีเวลาที่มีคุณภาพ เพื่อเสริมสร้างครอบครัวให้มีความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งขึ้น
  5. สนับสนุนให้เด็กและครอบครัวที่ประสบความลำบากและทำการประเมินความต้องการ และจัดโครงการช่วยเหลือที่เหมาะสมและเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ครอบครัวสามารถประกอบอาชีพและดูแลตนเองได้ สร้างให้ครอบครัวและเด็กมีความมั่นคงปลอดภัยทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และฝ่ายจิตวิญญาณ

ผู้รับผิดชอบโครงการ

มูลนิธิพันธกิจพระพรไทย

มูลนิธิพันธกิจพระพร (ไทย) เป็นองค์กรการกุศลไม่แสวงหากำไร ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษย์ธรรมแก่ประชาชนที่อาศัยในประเทศไทยและตามชายแดน เช่น โครงการน้ำสะอาด โครงการส่งเสริมอาชีพ โครงการบรรเทาสาธารณภัย โครงการเกี่ยวกับเด็ก และโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เป็นเวลากว่า 20 ปี มูลนิธิฯ ได้ให้การช่วยเหลือประชาชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปไม่น้อยกว่าสามแสนคน

จัดกิจกรรมให้น้องๆในโครงการ School of Life จำนวน 37 คน

7 February 2023

กิจกรรมที่ทางโครงการจัดทำ

ติวข้อสอบ ให้เด็กๆ ทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี เวลา 17.00 น. - 19.00 น. เริ่มเด็กทานข้าว พี่เล่นเกมส์ภาษาอังกกฤษ แล้วแยกกลุ่มตามระดับช่วงชั้น แต่ละช่วงชั้นมีคุณครู 1 คน ยกเว้นช่วงชั้น ป.6- ม.2 มีครู 2 คน โดยจะเน้นสอนให้เด็กทำการบ้านให้เสร็จก่อน จากนั้นคุยกับน้องๆในวิชาที่อยากเรียนหรือมีปัญหาวิชาไหน แล้วจะสอนสัปดาห์ละวิชา ประกอบด้วยวิชาคณิต อังกฤษ ไทย ดังนี้

  • อนุบาล 1, ประถมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 7 คน
  • ประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 11 คน
  • ประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 คน
  • ประถมศึกษาปีที่ 6 - มัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 12 คน
  • รวมทั้งสิ้น 37 คน

ก่อนทำกิจกรรม - เด็กหลายคนผลการเรียนไม่ดี เพราะเด็กที่มาเรียนส่วนมากเป็นเด็กโรงเรียนขนาดเล็ก พ่อแม่ไม่มีเงินส่งลูกเรียนพิเศษ ผู้ปกครองมีรายได้น้อย ส่วนใหญ่ผู้ปกครองมีอาชีพรับจ้าง ผู้ปกครองสอนลูกไม่ได้ เนื่องจากพ่อแม่ไม่รู้หนังสือ บางคนทำงานจนไม่มีเวลามาสอนลูก เด็กหลายคนอ่านหนังสือไม่ได้ คณิตเห็นโจทย์ทำไม่ได้

หลังทำกิจกรรม - ผลการเรียนมีการเรียนดีขึ้นมาก ผู้ปกครองไว้วางใจทางคริสตจักรมากขึ้น เด็กมีความมั่นใจมากขึ้น

ซุปเปอร์บุ๊ค ทุกวันเสาร์ ตอนเช้า เวลา 10.00 น. - 11.00 น. สอนคุณธรรมจริยธรรม

ก่อนทำกิจกรรม - เด็กๆ ไม่เคยได้เรียนจริยธรรมผ่านการ์ตูน เด็กพูดคำหยาบ ทะเลาะกัน ถ้าสอนในหนังสือ เด็กจะเบื่อง่ายไม่ค่อยตั้งใจฟัง

หลังทำกิจกรรม - เด็กๆ สนุกและตั้งใจเรียนผ่านการ์ตูนซุปเปอร์บุ๊ค เด็กได้เรียนรู้เรื่องจริยธรรมผ่านการ์ตูน เขาซึมซับเนื้อหาที่เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องราว เด็กเข้าใจง่าย เด็กระมัดระวังในการพูด เช่น โกรธก็โกรธเถอะแต่อย่าทำบาป เห็นพฤติกรรม เด็กมีการคืนดีกัน ให้อภัยกันง่ายขึ้น และยังเห็นเด็กช่วยเหลือกัน และแบ่งปันกัน

กิจกรรมยุวยาตราประเทศไทย เป็นกิจกรรมลูกเสือคริสเตียน ทุกวันเสาร์ เวลา 11.00 น. – 12.00 น. เน้นการพัฒนาเด็ก 4 ด้าน จิตวิญญาณ ร่างกาย สติปัญญา สังคม

  • ด้านร่างกาย เน้นเรียนผ่านการเล่นเกมส์ ฝึกวินัย เช่นระเบียบแถว ฝึกการยืนให้ตรง เหมือนวิชาลูกเสือ
  • สังคม อารมณ์ เด็กเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน การทำงานด้วยกัน การช่วยเหลือกัน ผ่านกิจกรรมต่างๆ
  • ด้านสติปัญญา อาทิ สอนเรื่องยาเสพติด ให้เด็กรู้จักยาเสพติดประเภทต่างๆ โทษของยาเสพติด สอนเกี่ยวกับนักดับเพลิง ให้เด็กรู้จักวิธีที่จะป้องกันตนเอง บางทีพาไปที่ศูนย์รถดับเพลิง เพื่อเรียนรู้จากเจ้าหน้าที่ที่หน่วยดับเพลิง สอนวิชาช่างซ่อมจักรยาน โดยเอาน้องที่เคยจบกิจกรรมยุวยาตราหรือครู มาสอนการซ่อมจักรยานเบื้องต้น คอมพิวเตอร์ ให้เด็กเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น - แต่ละสัปดาห์ก็จะเรียน 1 หัวข้อ
  • ด้านจิตวิญญาณ - เน้นผ่านเกมส์ หรือการแบ่งปัน

ก่อน – เด็กส่วนมากอยู่กับโทรศัพท์ไม่สนใจคนรอบข้าง อยู่กับเกมส์ ไม่มีวินัย

หลัง – ดึงเด็กออกจากโทรศัพท์จากเล่นเกมส์ ทำให้เขามีสังคม มีเพื่อนที่ดี มีกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เด็กมีวินัย เด็กมีทักษะชีวิต

วันเสาร์ - สอนดนตรี เด็กเลือกเอง เปียโน กีต้าร์ กลอง เวลา 13.00 น.-14.00 น.

ก่อน - เด็กชอบดนตรี แต่ไม่มีอุปกรณ์เล่น ไม่มีคนสอนว่าต้องเล่นอย่างไร

หลัง – เด็กได้ตัดสินใจเองในสิ่งที่ตนเองชอบ เด็กสามารถเล่นดนตรีบนได้เวทีได้เอง เวลาที่คริสตจักรจัดกรรม เช่น วันคริสตมาส

วันเสาร์ - เกษตร เด็กเลือกเอง ว่าจะเลี้ยงไก่ ปลูกผักสลัด ผักสวนครัว จัดสวน มีผู้ปกครองที่มีอาชีพจัดสวนที่จะสอนให้เด็กๆ แล้วนำผลผลิตมาทำอาหาร

ก่อน - เด็กชอบ แต่ไม่รู้จะทำการเกษตรอย่างไร ทำการเกษตรให้ต่อเนื่องอย่างไร

หลัง - เด็กมีความรับผิดชอบ ดูแลจนไข่ไก่ก็ได้ออกมาขาย และเอาไข่ไปขาย รู้วิธีการขาย

วันเสาร์ - เด็กเลือกเอง ทำอาหาร/เบเกอรี่ เช่น ทำคุกกี้ ส้มตำ เค้ก ก๋วยเตี๋ยว

ก่อน - เด็กชอบ แต่ไม่มีอุปกรณ์ทำ ไม่มีคนสอน

หลัง - เด็กสนใจ ทำได้ เด็กๆได้ทำขนมเลี้ยงแขกในวันคริสตมาส เด็กได้แบ่งให้เพื่อนๆกิน

จัดค่ายอนุรักษ์ธรรมชาติ - ไปดูช่วยกันดูแลรักษาป่าที่อุดมสมบูรณ์ มันกำลังจะหายไป เน้นไม่ให้เด็กไปทำลาย ค่าย-เน้นฝึกทักษะอาชีพ เป้าหมายให้เด็กเรียนรู้คุณค่าของเงิน และการอยู่รวมกันในครอบครัว การวางแผนเรื่องการเงิน การหาเลี้ยงมาเลี้ยงคนในครอบครัว ให้เด็กให้เข้าพ่อแม่เรื่องการหารายได้ว่ามันยากลำบากแค่ไหน

ก่อน – เห็นว่าเด็กๆ อยู่อย่างสุขสบาย พ่อแม่ทำทุกอย่างให้ ถ้าวันหนึ่งไม่มีคนอยู่ เขาต้องทำเองต้องทำอย่างไร อยากฝึกเด็ก เตรียมเด็กให้รู้จักเอาชีวิต ให้เขาลองการใช้ชีวิต

หลัง - เด็กเข้าใจพ่อแม่มากยิ่งขึ้น เขามีความเห็นอกเห็นใจกัน ห่วงใย ในกลุ่ม (เพราะแต่ละกลุ่มแสดงเป็นครอบครัว) เด็กมีเวลาพูดคุย สร้างความสัมพันธ์กันขึ้นระหว่างเด็กเล็กกับพี่ๆ เด็กได้เข้าใจความยากลำบากการหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว การเอาตัวรอดในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เช่น จะก่อไฟอย่างไร การทำอาหารจะต้องทำอย่างไร

ความประทับใจผู้ที่ได้รับประโยชน์

คำขอบคุณของน้องๆจากโครงการ


เด็กหญิงปพิชญา กุดดอน ชอบการเข้าร่วมโครงการโรงเรียนเพื่อชีวิต เพราะได้ติววิชาที่น้องไม่ถนัด ได้เรียนภาษาอังกฤษ เรียนดนตรี ทำเกษตร ทำอาหาร สอนให้เรารักซึ่งกันและกัน เป็นคนดี

นางภิรมย์ญา จ้อยจังหรีด ให้ลูกเข้าร่วมโครงการพบว่า น้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ใจเย็นขึ้น มีสมาธิ เรียนดีขึ้น คะแนนวิชาภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ ดีขึ้น มีพัฒนาการโดยรวมดีขึ้น มีเพื่อนมาก

รูปภาพกิจกรรม

พี่สอนน้องทำการบ้าน

พี่อาสาเสิร์ฟอาหารน้อง

ครูสอนจริยธรรมเด็กๆ ผ่านการ์ตูน

เด็กๆเรียนรู้การปลูกผักแบบธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี

เด็กๆฝึกการทำขนม

เด็กๆได้ฝึกกีต้าร์ กับพี่ๆอาสา 

Budget plan

ลำดับ รายการ จำนวน จำนวนเงิน (บาท)
1 อาหารหลัก 3 มื้อ อาหารว่าง 2 มื้อ/สัปดาห์ (90 บาท/คน/สัปดาห์) จำนวน 5,580 บาทต่อสัปดาห์ 52 สัปดาห์ 290,160.00
2 ค่าตอบแทนอาสาสมัคร 4,000 บาท/เดือน 12 เดือน 48,000.00
3 จัดอบรมให้ความรู้ให้กับผู้ปกครอง ไตรมาสละ 3,000 บาท 4 ครั้ง 12,000.00
4 อุปกรณ์การเรียนตลอดทั้งปี 200 บาทต่อคน 62 คน 12,400.00
5 อุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมวันเสาร์ ตลอดทั้งปี 1 ปี 1,000.00
6 กิจกรรมค่ายพัฒนาผู้นำในเด็ก 1 ครั้ง 12,000.00
รวมเป็นเงินทั้งหมด
375,560.00
ค่าธรรมเนียมของเทใจ (10%)
37,556.00

ยอดระดมทุน
413,116.00