รอดจากโควิด รักษาหายไม่แพร่เชื้อให้คนอื่นแล้ว
แต่ร่างกายและจิตใจอาจไม่กลับไปเหมือนเดิมอย่างที่คิด
ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาปีกว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อยืนยัน 2.79 ล้านคน หายป่วยแล้ว 2.59 ล้านคน (ข้อมูลวันที่ 24 กพ 65) โดยผู้ป่วยที่หายแล้วนี้ประมาณ 30-50% (ประมาณ 7 แสนคน) ในประเทศไทย มีอาการผิดปกติทางร่างกายหรือจิตใจต่อเนื่องหลังจากหายป่วยแล้วนานกว่า 12 สัปดาห์ โดยอาการนี้พบในผู้ป่วยที่รักษาโควิดหายแล้วทั่วโลก และเรียกกันว่าอาการลองโควิด (Long COVID)
แม้โรคโควิด-19 และอาการลองโควิดจะเกิดขึ้นไม่นานและยังต้องอาศัยเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ป่วยในการศึกษาและสรุปผลอีกมาก แต่ก็มีงานวิจัยและสิ่งตีพิมพ์จากหลายสถาบันการศึกษายืนยันและยอมรับการมีอยู่ของอาการลองโควิดนี้ โดยอาจเรียกอาการเหล่านี้ว่า long-haul COVID, post-acute COVID-19, long-term effects of COVID, หรือ chronic COVID
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO บัญญัติคำจำกัดความของ Long Covid หรือ Post COVID-19 Condition (ด้วยวิธีการ Delphi โดยผู้เชี่ยวชาญและผู้เกี่ยวข้องต่างๆ) ไว้เมื่อวันที่ 6 ตุลาคน 2564 ว่า
“โดยทั่วไปเกิดขึ้นในบุคคลที่เป็นผู้ติดเชื้อยืนยัน หรือผู้มีประวัติที่อาจติดเชื้อ COVID-19 ในช่วงเวลา 3 เดือนหลังจากพบอาการโควิด-19 ครั้งแรก และมีอาการต่อเนื่องอย่างน้อย 2 เดือน โดยไม่สามารถวินิจฉัยสาเหตุอื่นได้ อาการที่พบโดยมากคืออาการอ่อนเพลีย หายใจลำบาก ภาวะผิดปกติของสมอง (Cognitive Dysfunction) และอาการอื่นๆ ที่มีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน”
อาการลองโควิดพบได้ทั้งในผู้ป่วยที่เคยมีอาการป่วยหนักเนื่องจากโควิด มีอาการติดเชื้อในปอด ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล และในผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการป่วยหรือไม่เคยตรวจหาเชื้อเลย อาการลองโควิดที่พบในประเทศไทยโดยมาก คือ
- ระบบทางเดินหายใจ: หายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม
- ระบบสมองและประสาท: เหนื่อยเมื่อยล้าตลอดเวลา รู้สึกเพลียง่าย ปวดหัว สมาธิสั้นลงไม่สามารถจดจ่อในสิ่งที่ทำได้เหมือนเดิม ความจำไม่ค่อยดี
- ระบบทางเดินอาหาร: ปวดท้อง ท้องเสีย ทานอาหารแล้วรู้สึกท้องอืด
- สภาพจิตใจ: เครียด วิตกกังวล อาการเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (Posttraumatic Stress Disorder หรือ PTSD)
- อาการอื่นๆ เช่น ปวดข้อ เดินหรือขยับไม่ค่อยสะดวก นอนไม่หลับ เบาหวาน หลอดเลือดตีบ อาการอักเสบในอวัยวะต่างๆ
อาการเหล่านี้อาจเกิดจากกระบวนการรักษาหรือยาที่ใช้รักษาโควิด บางความผิดปกติอาจตรวจไม่พบด้วยการตรวจร่างกายทั่วไป ผู้ป่วยอาจสังเกตได้จากประสิทธิภาพของร่างกายที่ลดลง หลายรายไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับรองอาการลองโควิดบางอาการ (โดยต้องผ่านการประเมินอาการในแต่ละบุคคล) ทั้งอาการทางร่างกายและจิตใจเป็นภาวะพิการ (disability) แล้ว
เมื่อป่วยเป็นโควิดหรือสงสัยว่าเคยเป็นโควิด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว ผู้ป่วยที่มีภูมิต่ำ หรือผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโควิดรุนแรง ควรสังเกตอาการตนเอง เช่น อาการใจสั่น เจ็บหน้าอก ท้องเสียไม่รู้สาเหตุ หายใจไม่เต็มอิ่ม เหนื่อยง่าย อาจเป็นอาการเล็กๆ น้อยๆ ที่ตรวจร่างกายไม่พบแต่รู้สึกว่าผิดปกติต่อเนื่องเกิน 12 อาทิตย์ ควรไปปรึกษาหมอเพื่อหาสาเหตุ
แม้จะยังมีองค์ความรู้และการศึกษาเกี่ยวกับลองโควิดไม่มาก แต่การสังเกตความผิดปกติทั้งทางร่างกายและจิตใจ เฝ้าระวังอาการที่พบก่อนและหลังเป็นโควิด ไปตรวจหาสาเหตุและรักษาอาการต่างๆ แต่เนิ่น เป็นวิธีรักษาลองโควิดที่ดีที่สุดที่มีในตอนนี้
ขอให้ทุกคนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และดีที่สุดของที่สุดคือการป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อโควิดนะคะ
ที่มา
- https://www.latimes.com/california/story/2021-09-16/1-in-3-covid-patients-suffer-long-covid-cdc-study
- https://www.who.int/publications/i/item/WHO-2019-nCoV-Post_COVID-19_condition-Clinical_case_definition-2021.1
- https://www.health.harvard.edu/blog/what-is-covid-19-brain-fog-and-how-can-you-clear-it-2021030822076
- https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=31110