ความเคลื่อนไหว

  • Project update > โครงการแว่นผู้สูงวัย ขอแว่นตาให้ผู้สูงวัยยากไร้ในชุมชน

    มอบให้ผู้สูงวัยในกรุงเทพมหานคร จำนวน 524 คน

    22 March 2023

    โครงการแว่นผู้สูงวัย ขอแว่นตาให้ผู้สูงวัยยากไร้ ดำเนินการระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2566 ซึ่งมูลนิธิฯ ได้นำแว่นตาไปมอบให้ผู้สูงวัยยากไร้ที่พักอาศัยในชุมชนร่มเย็น ชุมชนสุขสำราญ ชุมชนเลียบคลองบางแค ชุมชนชาววัดม่วง และชุมชนปู่เย็นย่าคำ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร เมื่อวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 จำนวน 269 คน และวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566 ณ ชุมชนวัดคลองเตยใน ชุมชนหัวโค้ง ชุมชนร่มเกล้า ชุมชน 70 ไร่ ชุมชนล็อค 1-2-3 และชุมชนล็อค 4-5-6 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร จำนวน 255 คน โดยใช้เงินที่ได้รับบริจาคในโครงการเทใจดอทคอม มาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อแว่นตามามอบให้ผู้สูงวัยยากไร้ ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค

    ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์ 

     ป้าสำรวย อายุ 79 ปี ป้าสำรวยอยู่กับสามี และหลานๆ ด้วยความที่อายุมากขึ้น การหาของ การอ่านฉลากยาเพื่อจะหยิบยากินเองเริ่มลำบากขึ้น เพราะตัวหนังสือที่อยู่บนฉลากยาเล็กมาก หรือการไปซื้อของก็มักจะได้ของไม่ค่อยดีกลับมา เพราะการมองเห็นของป้าเริ่มไม่ชัดเหมือนเก่า ทำให้ป้าหงุดหงิดบ่อยๆ

    “ป้าดีใจที่ได้แว่นตามาใช้ เวลาป้าหยิบยามากินหรือหาของ มันดูง่ายและไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อน ขอบคุณมูลนิธิฯ ที่เอาแว่นมาให้ป้านะ”

     ป้าเชอร์รี่ อายุ 72 ปี ป้าเชอร์รี่อยู่ตัวคนเดียว มีอาชีพเก็บของเก่าขาย แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น ทำให้ตอนนี้การที่จะไปเดินหาหรือเก็บของเก่ามาไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน ป้าเล่าว่าเคยไปเก็บของแล้วมองไม่ชัด ทำให้มือไปโดนของมีคมบาดบ้าง ทำให้ป้าต้องระวังตัวมากขึ้น แต่ถึงจะระวังแค่ไหนมือก็ยังพลาดโดนบาดอยู่เรื่อยๆ เพื่อนบ้านสงสารก็จะช่วยรวบรวมขวดพลาสติกที่ไม่ได้ใช้ เอามาให้แกบ่อยๆ

    “ ขอบคุณมูลนิธิฯ นะ ที่เอาแว่นตามาให้ป้าได้ใช้ ตอนนี้ป้ามองเห็นอะไรชัดขึ้นเยอะเลย ”

    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    ผู้สูงอายุเป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในชุมชนมากกว่า 500 คน-ผู้สูงวัยมีแว่นสายตาใช้ ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น
    -ช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้ดีขี้น
    -ลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาสายตา
    รูปภาพกิจกรรม

      วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข 40 บางแค สาขาวิจิตราอนามัย

    มูลนิธิฯ ได้นำแว่นตา ไปมอบให้ผู้สูงวัยยากไร้ที่พักอาศัยในชุมชนร่มเย็น ชุมชน สุขสำราญ ชุมชนเลียบคลองบางแค ชุมชนชาววัดม่วง และชุมชนปู่เย็นย่าคำ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร มีผู้สูงวัยมารับแว่น จำนวน 269 คน

      วันที่ 10 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข 41 คลองเตย

    มูลนิธิฯ ได้นำแว่นตา ไปมอบให้ผู้สูงวัยยากไร้ที่พักอาศัยในชุมชนหัวโค้ง ชุมชนร่มเกล้า ชุมชน 70 ไร่ ชุมชนล็อค 1-2-3 และชุมชนล็อค 4-5-6 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร มีผู้สูงวัยมารับแว่น จำนวน 255 คน

    Read more
  • Project update > “อยู่เพื่อยิ้ม” ระดมทุนจัดซื้ออุปกรณ์กิจกรรมศูนย์เชี่ยวชาญพิเศษด้านเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวและสมอง

    จัดซื้ออุปกรณ์และให้บริการทางกายภาพบำบัด

    22 March 2023
    หลังจากปิดรับระดมทุน ทางโครงการ“อยู่เพื่อยิ้ม” ระดมทุนจัดซื้ออุปกรณ์กิจกรรมศูนย์เชี่ยวชาญพิเศษด้านเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวและสมอง ได้ทำการจัดซื้ออุปกรณ์และให้บริการทางกายภาพบำบัด ดังนี้
    1. ซื้อครุภัณฑ์ประเมินและฝึกการทรงตัว 2 รายการ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยที่ระบบประสาทและกล้ามเนื้อผิดปกติส่งผลต่อการทรงตัว ทำให้ยืนเองไม่ได้ หรือเดินแล้วล้มง่าย ชื่อรายการ เครื่องฝึกการทรงตัว พร้อมอุปกรณ์ช่วยยกผู้ป่วยจากท่านั่งสู่ท่ายืน พร้อมซอร์ฟแวร์ในการฝึก เพื่อฝึกผู้ป่วยที่ยังยืนเองไม่ได้ (Balo) จำนวน 1 เครื่อง วันที่รับ 31 ส.ค. 2565 จำนวนเงิน 800,000 บาท ซึ่งผลลัพธ์คือ ณ วันที่ 31 ม.ค. 2566 มีผู้มารับบริการ 40 ครั้ง  
    2. ซื้อเครื่องช่วยพยุงเดิน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินวิธีการเดิน เพิ่มศักยภาพของ สมองในการสั่งการเดินแบบอัตโนมัติ (reflex walking) เพิ่มความแข็งแรงและทนทานของกล้ามเนื้อในการเดินและทรงตัว ชื่อรายการ lite gait วันที่รับ 28 ส.ค. 2565 จำนวนเงิน 800,000 บาท ซึ่งผลลัพธ์คือ ณ วันที่ 31 ม.ค. 2566 มีผู้มารับบริการ 100 ครั้ง  
    3. ซื้ออุปกรณ์ฝึกยืนสำหรับเด็กเล็กแบบปรับตามสัดส่วนของร่างกาย วันที่รับ 1 ก.ย. 2565 จำนวนเงิน 212,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างแรงกดและแรงดึงต่อลำตัว แขนและขา เพื่อให้กระดูกและกล้ามเนื้อของเด็กที่ยืนเองไม่ได้เติบโตใกล้เคียงกับเด็กทั่วไป ซึ่งผลลัพธ์คือ ณ วันที่ 31 ม.ค. 2566 มีผู้มารับบริการ 120 ครั้ง  

    คลินิกกิจกรรมบำบัด 

    1. ซื้อโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าสำหรับเด็กสมองพิการ โดยมีวัตถุประสงค์ เพิ่มใช้ฝึกเด็กสมองพิการในฝึกการทำกิจกรรมต่างๆ ฝึกการเคลื่อนไหวของแขนและมือ และกิจวัตรประจำวัน ชื่อรายการ โต๊ะปรับระดับไฟฟ้าสำหรับเด็กสมองพิการจำนวน 2 ตัว วันที่รับ 28 ก.ย. 2565 จำนวนเงิน 118,000 บาท ซึ่งผลลัพธ์คือ ณ วันที่ 30 ม.ค. 2566 มีผู้มารับบริการที่ใช้งานจำนวน 100 คน  
    2. ซื้ออุปกรณ์ตรวจประเมินและฝึกทางกิจกรรมบำบัด เพื่อประเมินความสามารถในการใช้นิ้วมือและมืออย่างเป็นระบบ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความสามารถในการใช้นิ้วมือและมืออย่างเป็นระบบ เพิ่มความแข็งแรงทนทานของกล้ามเนื้อมือ และความคล่องแคล่วของมือ ชื่อรายการ อุปกรณ์ตรวจประเมินและฝึกทางกิจกรรมบำบัด เพื่อประเมินความสามารถในการใช้นิ้วมือและมืออย่างเป็นระบบ จำนวน 1 ชุด วันที่รับ 15 ก.ย. 2565 จำนวนเงิน 241,800 บาท ซึ่งผลลัพธ์คือ ณ วันที่ 30 ม.ค. 2566 มีผู้มารับบริการที่ใช้งานจำนวน 40 คน    
    3. เครื่องประเมินความผิดปกติของฝ่าเท้าและการลงน้ำหนัก (Podoscope) จำนวนเงิน 25,000 บาท รับ 24 ก.ค. 2565 ผลลัพธ์ ณ วันที่ 30 มกราคม 2566 มีผู้มารับบริการ 12 คน  
    4. เครื่องวัดระดับความสมดุลของสะโพก (Pelvic level) จำนวนเงิน 9,600 บาท รับ 11 ก.ค. 2565 ผลลัพธ์ ณ วันที่ 30 มกราคม 2566 มีผู้มารับบริการ 13 คน 


    Read more
  • Project update > ONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้

    ส่งมอบเครื่องมือแพทย์รอบแรกถึงโรงพยาบาลแขวงคำม่วนแล้ว

    21 March 2023

    เมื่อวันที่ 7-8 มีนาคม ทางโครงการONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ ได้ดำเนินการนำเครื่องมือแพทย์ข้ามจากฝั่งไทยไปส่งถึงมือคุณหมอและพยาบาล ณ โรงพยาบาลแขวงคำม่วนเรียบร้อยแล้ว และจัดให้มีกระบวนการเทรนนิ่งการใช้เครื่องมือต่างๆ เพราะหลายเครื่อง เช่น เครื่องช่วยหายใจ หรือเครื่องในแผนกกายภาพ ทางโรงพยาบาลยังไม่เคยมีใช้มาก่อน

    สำหรับรายการเครื่องมือแพทย์รอบแรกประกอบด้วย 

    1.เครื่องช่วยหายใจเด็ก ชนิด nCPAP จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องช่วยหายใจสำหรับทารกที่มีภาวะหายใจลำบาก ภาวะหยุดหายใจ หรือหลังจากถอดท่อช่วยหายใจทางหลอดลม เพื่อช่วยให้ทารกหายใจเหนื่อยน้องลง 

    2.เครื่องเฝ้าติดตามสัญญาณชีพชนิดข้างเตียงผู้ป่วย Bedside Monitor ที่สามารถติดตามภาวะการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต จำนวน 5 เครื่องเพื่อติดตั้งในห้อง ICU 

    3.เครื่องกระตุกหัวใจ AED จำนวน 3 เครื่อง เพื่อติดตั้งในห้องฉุกเฉิน รถกู้ชีพ 

    4.เครื่องวัดความดันโลหิตแบบอัตโนมัติพร้อมขาตั้ง 12 เครื่อง เพื่อติดตามอาการคนไข้ในแผนกและวอร์ดผู้ป่วยในต่างๆ


    5.เครื่องวัดความดันชนิดสอดแขนจำนวน 3 เครื่อง เพื่อใช้แผนก OPD , ผู้ป่วยฉุกเฉิน

    6.เครื่องดึงคอ/ดึงหลัง (traction) จำนวน 1 เครื่อง สำหรับแผนกกายภาพบำบัดที่ปัญหาด้านกระดูกคอและสันหลัง

    7.เครื่องอัลตร้าซาวด์สำหรับกายภาพ จำนวน 2 เครื่อง แผนกกายภาพบำบัดเพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านกล้ามเนื้อ

    8.หม้อต้มแผ่นประคบร้อน จำนวน 1 เครื่อง(แผนกกายภาพบำบัด)


    โดยอุปกรณ์หลายอย่าง เช่น เครื่องช่วยหายใจในเด็ก และกลุ่มอุปกรณ์กายภาพทางโรงพยาบาลไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่อุปกรณ์หลายอย่าง เช่น Bedside monitor ก็ไปเสริมการทำงานในห้อง ICU ให้มีมากขึ้น 

    พ.ญ.จิตตะยา สีมุกดา แพทย์ประจำห้อง NICU/PICU กล่าวว่า ห้อง NICU พูดง่ายๆ คือ ICU เด็กที่คลอดก่อนกำหนด ห้อง NICU ในละแวกแขวงหรือจังหวัดคำม่วนมีเพียงเราที่เดียว ดังนั้นหากมีการคลอดเด็กตามสุขศาลา (ที่ไทยเรียกว่าอนามัย) หรือคลอดเอง และพบว่าเด็กไม่แข็งแรงจะถูกส่งมาที่เราทันที ทำให้ปี 2022 เราให้บริการเด็กในห้องนี้ไปกว่า 272 คน และมีอัตราการเสียชีวิต 26 คน

    “การมีเครื่องช่วยหายใจสำหรับเด็กโดยเฉพาะเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเราไม่มีเครื่องช่วยหายใจสำหรับเด็กมาก่อน โดยที่ผ่านมาเราต้องใช้เครื่องช่วยหายใจชนิดสวมหน้ากากสำหรับเด็ก แต่ก็ทำให้เด็กเสี่ยงตาบอดจากอ๊อกซิเจนที่รอดผ่านแมสได้ เครื่องนี้จึงลดอันตรายได้มาก เราดีใจมากที่ได้เครื่องช่วยหายใจ 2 เครื่องมาช่วยชีวิตเด็ก”

    อย่างไรก็ตาม สำหรับการส่งมอบครั้งนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ยังมีเครื่องมือแพทย์อีกมากที่กำลังเตรียมส่งมอบรอบสองที่คาดว่าจะส่งแล้วเสร็จไม่เกินเดือนพฤษภาคมนี้ เช่น เครื่องอัลต้าซาวด์ อุปกรณ์ผ่าตัดสมอง ชุดกล้องส่องตรวจกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ และอื่นๆ


    Read more
  • Project update > สร้างครู สร้างนักเรียน สู่การสร้างงาน สร้างอาชีพคืนสู่สังคมในยุค New Normal

    จัดค่ายนวัตกรรมผู้ประกอบการหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ สากล

    20 March 2023

    กิจกรรมประชาสัมพันธ์ จัดค่ายนวัตกรรมผู้ประกอบการหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ สากล (AI 5.0) มาตรฐานเนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และเยอรมัน ส่งประกวด ในระดับประเทศ 150 โครงการ จาก 40 กว่าโรงเรียน ได้เป็นตัวแทน และระดับนานาชาติ และค่ายเก็บตัวนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าร่วมประกวด International Scratch Olympiad 2023 ระดับนานาชาติ ปีที่ 7 โดยส่งตัวแทน ที่ได้รับรางวัล 1-3 จำนวน 6 รุ่น รวม 18 คน

    โดยมีกิจกรรมเพื่อการพัฒนาสร้างครู สร้างนักเรียน สู่การสร้างงาน สร้างอาชีพคืนสู่สังคมในยุค New Normal ตามกิจกรรมดังนี้

    • 19-22 มกราคม 2565 ค่ายพัฒนาครูนวัตกรรมผู้ประกอบการหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ สากล (AI 5.0) มาตรฐานเนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และเยอรมัน สำหรับครูจำนวน 10 คน เพื่อนำไปพัฒนานักเรียนในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง
    • 21-24 พฤษภาคม 2565 ค่ายนวัตกรรมผู้ประกอบการหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ สากล (AI 5.0) มาตรฐานเนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และเยอรมัน สู่การเข้าประกวดการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ Scratch Olympiad 2022 ในระดับประเทศ เพื่อก้าวเข้าสู่เวทีนานาชาติตอบโจทย์การเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์เพื่อสังคม และการสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยมีครู นักเรียน จำนวน 15 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
    • 28 สิงหาคม ถึง 3 กันยายน 2565 ค่ายนวัตกรรมผู้ประกอบการหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ สากล (AI 5.0) มาตรฐานเนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และเยอรมัน สู่การเข้าประกวดการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ International Scratch Olympiad 2022 ปีที่ 6 ระดับนานาชาติ มีนักเรียน และผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 20 คน

    ซึ่งในการเข้าค่ายนั้นมีค่าใช้จ่าย ทางมูลนิธิฯ จะมีทุนการศึกษาให้ส่วนหนึ่ง และมีผู้สนับสนุนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง โรงเรียน และการระดมทุนจากเทใจดอทคอมก็ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้

    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    เด็กและเยาวชนในกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศไทย150 คน

    คัดเลือกจาก 150 คน โครงการ ด้วยการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์โอลิมปิกวิชาการนานาชาติ เป็นตัวแทนประเทศไทยจำนวน 18คน เข้ารับถ้วยรางวัลและประกาศนียบัตรจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรับฟังโอวาท โดยได้ดำเนินกิจกรรมค่ายผู้ประกอบการหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์สากล (AI 5.0) เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดในระดับนานาชาติ และผลการประกวดได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ 2 คน เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง การเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์โอลิมปิกวิชาการนานาชาติ จาก 45 ประเทศ กว่า 4,000 คน


    วิดีโอกิจกรรม

     วิดีโอ : ทางมูลนิธิฯ เข้าร่วมสนับสนุนเด็กในพื้นที่ห่างไกลหากน้องๆ มีความสามารถและตั้งใจจริง

      วิดีโอ : ตัวอย่างการเรียนในหลักสูตร

    รูปภาพกิจกรรม

        


    Read more
  • Project update > ระดมทุนช่วยผู้ป่วย/สูงอายุ ขาดแคลนผ้าอ้อมสำเร็จรูป

    อาสาสมัครพัฒนาสังคมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น แก่ผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ

    20 March 2023

    อาสาสมัครพัฒนาสังคม (อพม.) เขตลาดพร้าว เป็นสะพานบุญในการลงพื้นที่ เคาะประตูบ้าน เพื่อเยี่ยมเยือนถามไถ่ทุกข์สุขผู้สูงอายุ ผู้พิการติดเตียงและกลุ่มคนเปราะบางที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนและอาศัยอยู่ในพื้นที่แออัด

    ในการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ทำให้ผู้รับสามารถรักษาความสะอาดทางด้านสุขอนามัยได้อย่างถูกวิธี ไม่เกิดแผลกดทับและไม่ติดเชื้อ สุขภาพจิตดีและพร้อมดูแลตนเองกับความเจ็บป่วยที่มี

    โดยในการลงพื้นที่ของอาสาสมัครพัฒนาสังคมในครั้งนี้ได้พบกับเคสต่างๆ ดังนี้

     คุณตาเที่ยง ซึ่งอาศัยอยู่กับลูกชายซึ่งมีอาชีพรับจ้าง ระหว่างที่ อพม.เข้าไปเยี่ยม คุณตาเที่ยงได้นอนและลุกไม่ขึ้น ทีมงานต้องช่วยกันประคองคุณตาขึ้นนั่ง และสังเกตว่าคุณตาไม่สามารถลุกเองได้และอยู่ในท่านอนเดิมๆนานเกินไป ทำให้เกิดอาการบวมน้ำที่เบ้าตาข้างขวาจึงได้ประสานกับอาสาสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อช่วยดูอาการและช่วยในการดูแลปฐมพยาบาลต่อไป

     นางสาวฝ้าย ผู้พิการตัดขาที่นอนติดเตียงอยู่บนบ้านไม้ที่พื้นไม้เริ่มผุ เวลาเดินเข้าบ้านต้องค่อยๆย่ำตามแผ่นไม้กระดาน อาศัยอยู่กับหลานที่มีอาชีพเป็นแม่บ้าน ซึ่งระหว่างวันทำงานต้องให้ นางสาวฝ้ายอยู่บ้านคนเดียวต้องอยู่กับสิ่งขับถ่ายเป็นเวลาหลายๆชั่วโมง ส่งผลให้เกิดเป็นแผลกดทับยากต่อการดูแลรักษา อพม.เขตลาดพร้าว จึงส่งมอบผ้าอ้อม ถุงยังชีพ และช่วยประสานอาสาสาธารณสุขเข้าดูแลเรื่องสุขอนามัยต่อไป

     นายสมชาย เล่าว่า ตนเองเส้นเลือดในสมองตีบทำให้แขนขาซีกขวาไม่สามารถใช้งานได้ เป็นภาระทำให้ลูกสาวคนเดียวต้องออกจากโรงเรียนและหางานทำ ซึ่งรายได้ก็ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครัวเรือนไม่มีเงินไปพบแพทย์ตามนัด อพม.เขตลาดพร้าว จึงส่งมอบผ้าอ้อมและข้าวสารอาหารแห้งไว้ เป็นการช่วยเหลือความเป็นอยู่ในเบื้องต้น 

     คุณยายสมใจ ล้มป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่ในความดูแลของลูกสาว เดิมคุณยายจะไม่ค่อยพูด เมื่อเห็น อพม.ลาดพร้าวไปเยี่ยมด้วยความห่วงใย คุณยายพยายามจะพูดคุย และกล่าวคำขอบคุณออกมา ลูกสาวบอกกับอาสาฯ ว่าขอบคุณทีมงาน อพม.ลาดพร้าว ที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจ คุณยายรู้สึกดีใจจึงพยายามจะพูดกับทุกคน

     คุณตาเพียรและคุณยายบุญ อาศัยอยู่ในบ้านเพียง 2 คนตายาย เดิมมีลูก 3 คน ส่งเสียเล่าเรียนจนจบปริญญาโท ได้การงานที่ดีทั้ง 3 คนและได้ย้ายออกไปพักที่อื่น หลังจากนั้นก็ไม่กลับมาเยี่ยมพ่อแม่อีกเลย คุณยายบุญเกิดความเครียดทำให้ล้มป่วยเป็นอัลไซเมอร์ โดยมีคุณตาเพียรเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดมีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุ คุณตาเพียรทานข้าววันละ 1 มื้อ เพราะต้องประหยัดเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อเป็นการรักษาคุณยาย อพม.เขตลาดพร้าวจึส่งมอบผ้าอ้อม และถุงยังชีพ ที่มีข้าวสารอาหารแห้ง นม และของใช้ประจำวัน ไว้ให้เป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือต่อไป                                

    Read more
  • Project update > Happy meal for Happy Granny : เติมรัก ปันอิ่ม

    ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและแจกชุดอาหารให้แก่ผู้สูงอายุและผู้พิการ จำนวน 109 คน

    16 March 2023

    มูลนิธิโคเออร์ดำเนินกิจกรรมสงเคราะห์ข้าวสารอาหารแห้ง ให้แก่ผู้สูงอายุและคนพิการยากไร้ ใน จ.สระแก้ว และจ.สุรินทร์ เป็นเวลากว่า 36 ปีแล้ว เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 ถึงปัจจุบัน โดยมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและแจกชุดอาหาร 1 ชุด/เดือน

    ชุดอาหารจะประกอบด้วย ข้าวสาร 10 กิโลกรัม และ/หรือ ไข่ไก่ ปลาร้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กุนเชียง ปลากระป๋อง นมกล่อง UHT ตามความเหมาะสม ซึ่งจะลงพื้นที่ในทุกๆ อาทิตย์แรกของเดือน

    ในระยะเวลารณรงค์โครงการ Happy meal for Happy Granny : เติมรัก ปันอิ่ม ผ่านเทใจดอทคอม ระหว่างเดือนมีนาคม 2565 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีผู้รับประโยชน์ ในพื้นที่ จ.สระแก้ว และจ.สุรินทร์ จำนวนทั้งสิ้น 109 คน แบ่งเป็นผู้สูงอายุ จำนวน 86 คน และคนพิการ จำนวน 23 คน รายละเอียดดังตารางต่อไปนี้

    ตาราง : สรุปโครงการจากการประเมินโดยการสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่ลงพื้นที่ใน จ.สระแก้ว และจ.สุรินทร์ 

    ที่

    ผู้รับประโยชน์

    ก่อนทำโครงการผลที่ได้รับอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ
    1ผู้สูงอายุ1.อยู่โดดเดี่ยว ขาดกำลังใจ
    2.ขาดแคลนอาหาร
    1.การเยี่ยมเยียนทำให้ผู้สูงอายุได้มีคนให้พูดคุย ปรับทุกข์และให้กำลังใจ
    2.การมอบชุดอาหารช่วยให้ผู้สูงอายุมีอาหารครบมื้อ
    1.ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมการช่วยเหลือที่ยั่งยืนได้
    2.ผู้สูงอายุบางคนมีภาระจากการต้องดูแลลูกที่พิการ หรือหลานที่ลูกฝากไว้ให้เลี้ยงดูเพราะต้องไปทำงานต่างจังหวัด
    2คนพิการ1.ไม่มีรายได้เนื่องจากปัญหาทางกายภาพ
    2.เป็นผู้มีภาวะพึ่งพิงในครอบครัวที่มีฐานะยากจน
    1.การมอบชุดอาหารสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนพิการ และครอบครัวที่ต้องดูแลคนพิการได้
    2.ชุดอาหารที่ได้รับสามารถช่วยสมาชิกคนอื่นๆ ในครัวเรือนทำให้คนพิการรู้สึกมีคุณค่า
    1.คนพิการที่ได้รับความช่วยเหลือ ได้แก่ ผู้ป่วยติดเตียง ตาบอด พิการจากกับระเบิด ทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมการช่วยเหลืออื่นๆ ที่ยั่งยืนได้

    ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์

     นางบุญยัง มีหล้า หรือป้าน้อย อาศัยอยู่คนเดียวในกระต๊อบใกล้ๆ กับบ้านของญาติ ที่บ้านคลองอึ่งดำ ต.วังทอง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ปัจจุบันป้าอายุ 68 ปี มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน และไทรอยด์ อีกทั้งดวงตาก็พร่ามัว ทำให้ไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพตัวเองได้ ในขณะที่ญาติๆ ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกันมีอาชีพรับจ้างทั่วไป หาเช้ากินค่ำ มีฐานะไม่สู้ดีนัก การช่วยเหลือกันเองจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากโคเออร์ ป้าน้อยต้องอยู่แบบอดมื้อกินมื้อ

    ป้าน้อยบอกกับเราว่า ..“มันดีมากที่โคเออร์ ได้ช่วยเหลือให้ข้าวสารอาหารแห้งแก่ป้าช่วยทุ่นค่าใช้จ่ายของป้า และญาติด้วยเพราะในวันที่เขาไม่มีรายได้ ไม่มีคนจ้างงาน เขาออกไปหาเก็บผัก ขุดปู ขุดเขียด มาทำกินได้ แต่เขาไม่มีข้าวสาร ก็ได้แบ่งปันกันไปได้ สำหรับป้าไม่เคยมีหน่วยงานไหนช่วยเหลือ มีแค่เงินคนแก่ ป้าดีใจมาก ไม่ใช่แค่ช่วยป้าแต่ยังช่วยคนที่จุนเจือป้าด้วย”

     คุณยายปั่น ฟองเกิด อายุ 85 ปี อาศัยอยู่ลำพังคนเดียวที่ บ้านโนนเสาเอ้ ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โคเออร์ได้รับข้อมูลความลำบากของยายจากอาสาสมัคร  เมื่อราวๆ สิบกว่าปีมาแล้ว สามีของยายเสียชีวิตลงทำให้ต้องอยู่คนเดียว ยายพิการขาขาดจากกับระเบิด ที่เกิดจากการออกไปหาเก็บของป่าขายที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ยายมีลูก 3 คน สองคนไปทำงานและมีครอบครัวในต่างจังหวัด เหลือหนึ่งคนที่มีครอบครัวและอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันแต่ก็มีความขัดสน หาเช้ากินค่ำ และได้นำหลานวัย 7 ขวบที่ป่วยจิตเวชมาฝากให้ยายปั่นเลี้ยงเวลาต้องออกไปทำงาน

    ยายปั่นเล่าให้ฟังเกือบทุกครั้งที่ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนว่า..“ถึงมีลูกก็ไม่ช่วยอะไร และยังเอาหลานมาฝากให้เลี้ยงต้องหุงหาข้าวให้กิน แค่เบี้ยคนแก่กับคนพิการก็ไม่พอกิน ขอบใจที่ให้ข้าว ให้ของแห้ง ช่วยได้เยอะ”

    ป้าน้อยและยายปั่นเป็นเพียงตัวอย่างของผู้รับผลประโยชน์จากชุดอาหารที่ได้รับแต่ละเดือน ไม่เพียงแต่ได้ปันความอิ่มเท่านั้น หากแต่การได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนในแต่ละครั้ง ยังเป็นการได้รับฟัง พูดคุย ปรับทุกข์ เติมความรัก และสร้างรอยยิ้มให้พวกเขาได้อีกด้วย

    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์ 
    จำนวนผู้รับประโยชน์(คน)ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    ผู้สูงอายุ861.ผู้สูงอายุได้รับอาหารครบมื้อ และมีโภชนาการที่ดีขึ้น
    2.ผู้สูงอายุได้รับการบรรเทาใจ จากการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร
    คนพิการ231.ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนพิการ ครอบครัวหรือผู้ดูแลได้
    2.คนพิการหรือผู้ป่วย รู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น
    รูปภาพกิจกรรม

     ภาพ : บ้านของคุณตาสมุน กูลกิจ ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ (อายุ 72 ปี) ผู้ได้รับชุดอาหารจากมูลนิธิโคเออร์ 

     ภาพ : บ้านของคุณยายเปี่ยน ทองผง ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ (อายุ70ปี)ผู้ได้รับชุดอาหารจากมูลนิธิโคเออร์

       ภาพ : ยายและหลานได้อิ่มด้วยกัน   

     ภาพ : วันนี้...ยายได้รับความรักและปันอิ่ม (ยิ้มน้อย...แต่ยิ้มนะ)

     ภาพ : อาสาสมัครโคเออร์ร่วมกับ อสม. ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเบื้องต้น

       ภาพ : มอบข้าวสารอาหารแห้งและเยี่ยมเยียนคุณยาย

     ภาพ : คุณยายตาบอดแต่รับรู้ได้ถึงน้ำใจของกันและกัน  

        ภาพ : ร่วมด้วยช่วยดูแลซึ่งกันและกัน   

    วิดีโอกิจกรรม


    Read more
  • Project update > Money Hero - เล่น สนุก คิด ตะลุยภารกิจการออม

    จัดกิจกรรม "Money Hero การเงินสำหรับเด็ก" ให้แก่น้องๆจำนวน 37 คน

    16 March 2023

    กิจกรรม Money Hero การเงินสำหรับเด็กๆ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บ้านสวนครูองุ่น ทองหล่อ มีเด็กๆได้ร่วมเรียนรู้ร่วมสนุกผ่านฐานกิจกรรมเกือบ 40 คน

    เด็กๆที่มานั้นก็มีความหลากหลาย ทั้งช่วงอายุตั้งแต่ 6 -12 ปี พื้นฐานครอบครัว การศึกษา หรือแม้กระทั้งความสมบูรณ์พื้นฐานด้านครอบครัว เพราะเราให้โอกาสเด็กจากชุมชมทองหล่อได้เข้าร่วมกิจกรรมด้วย

    การปูพื้นฐานการเงินที่ดี เริ่มต้นจากการเรียนรู้ การเล่น และลงมือทำกิจกรรมที่เราจัด ได้แก่

    • นิทาน Money Hero แปะโป้งสัญญา เป็นนิทานการเงินสนุกๆนำเข้าสู่โลกของการเงิน พร้อมให้น้องลงนามคำมั่นสัญญา
    • อุดรูรั่วทางการเงิน โดยให้เข้าใจความสำคัญของการจดรับจ่ายเปรียบเหมือนการอุดรูน้ำรั่ว สร้างการแข่งขันกันเป็นทีมแบ่งงานกันทำและถอดบทเรียน
    • กำจัดปีศาจดอกเบี้ยในบ้านกัน เป็นกิจกรรมที่ให้รับฟังข้อมูลของดอกเบี้ยที่ไม่ดี และต้องรีบกำจัด แล้วลงมือทำผ่านการปาลูกบอลให้เข้าเป้าหมาย ได้ออกกำลัง
    • แยกแยะสิ่งจำเป็น-ไม่จำเป็น ให้จำลองสถานการณ์ว่าหากมีเงินจำกัดเราจะเลือกซื้ออะไรดี ผ่านการเลือกสินค้าจริงแล้วให้เล่าเหตุผลให้เพื่อนๆฟัง
    • ประดิษฐ์กระปุกหมูออมสิน ขวดน้ำที่แจกช่วงกิจกรรมสามารถนำเอามาประดิษฐ์เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราออมได้ ได้ตกแต่งเองตามใจอีกด้วย

    ระหว่างกิจกรรม เด็กๆได้ลงมือเล่นสนุก พูดคุย และเห็นตัวอย่างจากเพื่อนๆ เมื่อกลับบ้านไปแล้วผู้ปกครองก็ได้เนื้อหาที่สามารถเชื่อมโยงนำไปสอนต่อได้ ผลลัพท์ที่จะได้จริงๆ คือเมื่อเด็กกลับไปบ้านแล้วเริ่มต้นทำจริงเรื่องการเงินในแง่มุมที่ผู้ใหญ่แนะนำ

    ข้อสังเกตจากการทำกิจกรรมที่จะนำไปปรับปรุง

    1. พื้นฐานของเด็กที่แตกต่างกัน ทำให้เข้าใจเรื่องการเงินแตกต่างกันมากๆ เช่น ประสบการณ์ ความสนใจ พื้นฐานความรู้ เมื่อเข้ากิจกรรมร่วมกันจะทำให้สำหรับบางคนสนุก ท้าทาย แต่บางคนรู้สึกว่าเด็กเกินไป
    2. คำศัพท์บางคำเด็กไม่รู้จัก เพราะพื้นฐานไม่เหมือนกัน เช่น ดอกเบี้ย
    3. ควรมีตัวอย่างที่จับต้องได้ การเงินกับรูรั่วอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ถ้าเป็นเงินจริงเลย จะตรงและเข้าใจได้ง่ายกว่า
    4. สถานที่จัดไม่ค่อยเหมาะสม เพราะอากาศร้อน ระยะเวลาของแต่ละกิจกรรมสามารถทำให้กระชับมากขึ้น
    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    เด็กและเยาวชนเด็กที่มากับผู้ปกครอง 22 คน
    เด็กที่มาจากชุมชน 15 คน
    37 คนถูกกระตุกความคิดเรื่องความสำคัญของการเงิน
    วิดีโอกิจกรรม

    รูปภาพกิจกรรม

     ภาพ : กิจกรรมเล่านิทานการเงิน 

     ภาพ : Money Hero และ ปีศาจดอกเบี้ยปรากฎตัว
     ภาพ : คำมั่นสัญญา ในฐานะ Money Hero

     ภาพ : เติมน้ำในถังแทนการเพิ่มเงินในกระเป๋าสตางค์ มีสติ๊กเกอร์แทนค่าใช้จ่าย เมื่อจ่ายจริงก็จะแกะออก น้ำก็จะรั่วออกมา งั้นต้องทั้งรีบเติม รีบอุดรอยรั่ว

     ภาพ : ปาลูกบอลแทนการกำจัดปีศาจดอกเบี้ย เพราะถ้าปล่อยไว้จะยิ่งงอกเงย ทำให้เงินเราหาย
     ภาพ : ถ้าซื้อของแล้วไม่ได้จดรับจ่าย เราจะจำได้ไหมว่าเงินเราหายไปไหน ( ฝึกฝนจากสถานการณ์จริง )

      ภาพ : ไหนลองคิดสิ ถ้าเงินมีจำกัด เราจะซื้ออะไรดี อะไรจำเป็น ไม่จำเป็น ของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะ

     ภาพ : ขวดน้ำที่กิน อย่าทิ้ง เอามาทำกระปุกได้ ได้ตกแต่งเองอีกด้วย

    Read more
  • Project update > สมทบทุนจัดซื้อ "เครื่องช่วยหายใจ" ให้กับผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

    ดำเนินการจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจเพื่อผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

    15 March 2023
    การดำเนินโครงการหลังจากปิดระดมทุน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจ และจัดส่งให้ผู้ป่วยที่โรงพยาบาล โดยจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดก่อน แพทย์จะมีการปรับ-ตั้งค่าการใช้งานของเครื่องให้เหมาะสมกับผู้ป่วย จากนั้นแพทย์จะฝึกสอนการใช้งานให้กับผู้ดูแลหลัก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับบ้านต่อไป โดยมีช่วงระยะเวลาที่ดำเนินการมีดังนี้

    • 24 ก.พ. 2566 : ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง จาก โรงพยาบาลวชิระพยาบาล ติดต่อขอเครื่องช่วยหายใจ
    • 3 มี.ค. 2566 : แพทย์เจ้าของไข้ นำส่งใบประเมิน แบบสอบถามผู้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือของมูลนิธิฯ
    • 4-12 มี.ค.2566 : จัดหาเครื่องช่วยหายใจที่มีความเหมาะสมที่สุดกับการใช้งานของผู้ป่วย โดยการพิจารณาของแพทย์
    • 12 มี.ค. 2566 : ได้ข้อสรุปโดยแพทย์เลือก เครื่องช่วยหายใจ ResMed รุ่น Stellar 150 พร้อมอุปกรณ์ (จากการคัดเลือกเครื่องฯทั้งหมด 4 รุ่น จาก 3 บริษัทจัดจำหน่าย เครื่องช่วยหายใจ ResMed รุ่น Stellar 150 พร้อมอุปกรณ์ เสนอราคาเครื่อง 230,000 บาท - ส่วนลดพิเศษ 20,000 บาท = ราคาสุทธิรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 210,000 บาท
    • 13 มี.ค. 2566 : ขอมติจัดซื้อ จากคณะกรรมการมูลนิธิโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    ผู้พิการและผู้ป่วยผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง1อยู่ระหว่างการจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจให้ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

    Read more
  • Project update > โครงการใครๆ ก็เรียนได้ เพื่อสร้างแรงใจให้กับเด็กกลุ่มเปราะบาง

    จัดกิจกรรมสร้างคุณค่าให้ตนเองทางออนไลน์ ให้กับน้องๆจำนวน 30 คน

    15 March 2023

    โครงการ ใครๆก็เรียนได้ ได้ให้ความช่วยเหลือน้องๆไร้บ้านอายุ 8-25 ปี จำนวน 30 คน ในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนธันวาคม 2566

    ที่ผ่านมาน้องๆไร้บ้านหลายคนเมื่อเข้าร่วมกิจกรรมสร้างคุณค่า เช่น ศิลปะหรือกีฬา จะเกิดความรู้สึกกระตือรือร้นในการเรียน อยากเรียนจบและมีงานดีๆทำแบบรุ่นพี่ ทางโครงการจึงได้จัดกิจกรรมศิลปะบำบัดและต่อยมวยต้านยาเสพย์ติด เพื่อให้น้องๆมีสุขภาพกาย และใจที่ดีขึ้นรวมถึงมีแรงจูงใจในการศึกษาต่อให้จบ

    นอกจากศิลปะและต่อยมวย จะมีการเปิดรับสมัครน้องๆ 8-10 คน เข้าร่วมโครงการ " ค้นหาตัวตน " ทดลองทำโปรเจค เพื่อค้นหาสิ่งที่ชอบและสนใจทำหลังเรียนจบ โดยจะมีการนัดคุยกับครูพี่เลี้ยง เพื่อรับคำปรึกษาทุกเดือนๆละครั้ง และมี Line group ไว้ติดต่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

    โดยท้ายกิจกรรมของโครงการจะมีการประกวดโปรเจค และมีเงินรางวัลเป็นทุนสนับสนุนให้น้องที่เข้าร่วมโครงการ

    ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์ 

    " แม้ว่าผมจะป่วยเป็นโควิด และอยู่ในช่วงกักตัว การเรียนต่อยมวยออนไลน์ ช่วยผมได้มาก ไม่ได้แค่ร่างกายแข็งแรงอย่างเดียว แต่ทำให้จิตใจเข็มแข็ง มีพลังบวกและกำลังใจที่จะต่อสู้กับเชื้อโควิดให้ได้ รวมทั้งไม่กลับไปยุ่งกับสารเสพย์ติดอีก รวมทั้งกลับมาเรียน กศน ให้ได้ พวกผมประทับใจมากๆเลยครับ " ความรู้สึกจาก นักเรียน class มวย online

    " การได้ทำกิจกรรมศิลปะ ทำในพวกหนูใจเย็นลง ผ่อนคลายหายเหงาไปได้เยอะ และมีกำลังใจเรียน กศน จนจบและเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็นคนดี ขอบคุณคุณครูและพี่ๆทีมงานทุกคนเลยนะคะ " ความรู้สึกจาก นักเรียน class ศิลปะ online ( ที่เป็นคุณแม่วัยใส 2 คน )

    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    เด็กและเยาวชนน้องกลุ่มเปราะบางไร้บ้าน ที่อาศัยอยู่บริเวณ สถานีรถไฟหัวลำโพง30 คนน้องๆมีสุขภาพกาย และใจที่ดีขึ้นและมีแรงจูงใจในการเรียน เพื่อที่จะได้ทำงานที่ตนเองชอบและถนัด
    รูปภาพกิจกรรม

     
    ภาพ: การสอนต่อยมวยออนไลน์

      
    ภาพ: ตัวอย่างผลงานศิลปะของน้องๆ

    Read more
  • Project update > ช่วยชีวิต วิกฤติน้ำท่วมหนัก! บ้านเด็กเรดิออนและชุมชนสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่

    มอบสิ่งอุปโภค บริโภคให้แก่คนในชุมชนตำบลสบแม่ข่า จำนวน 150 ชุด

    14 March 2023

    เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2565 ชุมชนสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบน้ำท่วมจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักมาหลายวัน ทำให้แม่น้ำปิงไหลทะลักล้นริมฝั่งเข้าท่วมพื้นที่ทั้งหมด 5 หมู่บ้าน มีประชากรที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดมากกว่า 300 หลังคาเรือน รวมประชากรที่ได้รับความเสียหายกว่า 1,200 คน 

    จากการลงพื้นที่พบว่า มีผู้สูงอายุและเด็กจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในชุมชน บางหลังอยู่เพียงลำพังไม่สามารถออกมารับอาหารที่ทางหมู่บ้านจัดสรรไว้ให้ และปริมาณน้ำอยู่ในระดับหัวเข่าไปจนถึงท่วมศรีษะ และกว่าน้ำจะลดลงระดับปกติใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์

    ทางมูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล จึงได้แพ็คสิ่งของอุปโภค (ยาสีฟัน แฟรงสีฟัน สบู่ แชมพู) และสิ่งของบริโภค (บะหมี่กึ่งสำเร็จ อาหารแห้ง และปลากระป๋อง) ซึ่งแบ่งการช่วยเหลือดังนี้

    • วันที่ 4 ตุลาคม 2565 จำนวน 100 ชุด เพื่อลงพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ มอบให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ 62 หลังคาเรือน เป็นจำนวน 200 คน
    • วันที่ 5 ตุลาคม 2565 จำนวน 400 ชุด แบ่งออกเป็นหมู่บ้านละ 100 ชุด ประกอบไปด้วย หมู่ที่ 4 , 5 และ 6 ในบริเวณเขตตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ 
    • วันที่ 6 ตุลาคม 2565 จำนวน 150 ชุด ไปวางไว้ในจุดบริการชาวบ้านหมู่บ้านละ 50 ชุด ประกอบไปด้วยหมู่ที่ 4 , 5 และ 6 ในบริเวณเขตตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
    • วันที่ 8 ตุลาคม 2565 จำนวน 150 ชุด เพื่อทำการเข้าไปมอบให้แต่ละหมู่บ้านโดยไล่ระดับจากกลุ่มรับความเสียหายมากและเป็นกลุ่มเปราะบาง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็ก) รับความเสียหายมาก (ระดับน้ำมากกว่าระดับหน้าอก) และรับความเสียหายปลานกลาง-เล็กน้อย
    • วันที่ 15 ตุลาคม 2565 มอบน้ำดื่มพร้อมถุงบรรจุน้ำดื่มแบบใช้วนซ้ำ จำนวน 500 ถุง ซึ่งประชาชนสามารถนำกลับมาใช้ในครั้งต่อไปได้ เมื่อสภาวะน้ำท่วมเริ่มทุเลาลง สามารถนำถุงบรรจุน้ำมารับน้ำสะอาดได้ที่มูลนิธิฯ

    นอกจากนี้มูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล ได้รับผลกระทบน้ำเข้าท่วมทะลักพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้พื้นที่ดังกล่าวได้เปิดใช้สานสัมพันธ์เด็กและเยาวชนในหมู่บ้าน การจัดกีฬาบำบัดให้กับองค์กรต่างๆ การใช้เพื่อประชาสัมพันธ์และรวมกลุ่มกิจกรรมของหมู่บ้าน ซึ่งจากวิกฤติน้ำท่วมนี้ พื้นที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมขังเป็นเวลาหลายวัน หน้าดินบางส่วนหาย

    ทางมูลนิธิจึงเริ่มแก้ไขส่วนการเติมดินที่หายไปจากหน้าดิน และอัดบดดิน พร้อมทั้งปลูกหญ้าใหม่ ทั้งยังมีการบำรุงรักษาพื้นที่สนามโดยการใส่ปุ๋ย รดน้ำ ตรวจเช็คให้สามารถนำกลับมาเปิดให้บริการชุมชนอีกครั้ง ใช้ระยะเวลาการฟื้นฟูประมาณ 2-3 เดือน ปัจจุบันพื้นที่ด้านหน้าที่เปิดเป็นพื้นที่สาธารณะให้กับชุมชนสามารถกลับมาใช้ได้อย่างปกติ

    โดยทางโครงการเทใจมีส่วนในการช่วยเหลือถุงยังชีพครั้งนี้จำนวน 150 ชุด และช่วยเหลือในการปรับปรุงหน้าดินที่เสียหายบริเวณที่ถูกน้ำท่วมของมูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล 

    การได้รับความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในครั้งนี้ ทำให้มูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล สามารถเป็นศูนย์กลางในการเข้าถึงชุมชนผ่านทางการช่วยเหลือทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ มากไปกว่านั้นยังทำให้มูลนิธิฯ ได้ตระหนักว่าไม่ได้เดินบนเส้นทางนี้เพียงลำพัง ยังมีผู้คนที่ค่อยสนับสนุน ค่อยเป็นกำลังใจ สิ่งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้มูลนิธิฯ มีหัวใจในการทำเพื่อชุมชน และการบริการชุมชน

    รูปภาพกิจกรรม

     ทุกคนกำลังช่วยกันแพ็คสิ่งของอุปโภค และสิ่งของบริโภค

      มูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนลกำลังออกไปมอบสิ่งของบริโภคแก่ชุมชน

     มูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนลกำลังออกไปมอบสิ่งของบริโภคแก่ชุมชนในพื้นที่น้ำท่วมสูง

     การไปติดไปไวนิลเพื่อแจ้งให้ชาวบ้านมารับน้ำที่มูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล และเตรียมถุงให้ชาวบ้าน 

     การไปมอบสิ่งของอุปโภคและสิ่งของบริโภค แก่ชุมชนในจุดบริการ  

     กล่องห่วงใยที่พร้อมมอบให้แก่ชุมชน

     มูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล ไปมอบกล่องห่วงใยให้แก่ชุมชน  

      มูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล กำลังคัดเลือกเสื้อผ้า เพื่อเตรียมส่งมอบให้แก่ชุมชน

     กำลังปรับปรุงบริเวณสนามหญ้าด้านหน้าของมูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อเตรียมให้เด็กและชาวบ้านกลับมาใช้ได้อย่างปกติ 

     เด็กๆและชาวบ้านกำลังใช้บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าของมูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล หลังจากผ่านการปรับปรุงเป็นที่เรียบร้อย 

    Read more