โครงการหน่วยบริบาลและฟื้นฟูสุขภาพช้างชราและพิการ
เนื่องจาก สถานที่ตั้งของปางช้างบางแห่งนั้นอยู่ห่างไกลจากสถานพยาบาลช้างที่มีความพร้อมประกอบกับข้อจำกัดที่ช้างชรามีอายุมาก การเคลื่อนย้ายขนส่งช้างเป็นระยะทางไกลๆ จึงไม่ค่อยแนะนำ อีกทั้งความพร้อมของยาและเวชภัณฑ์ที่มีอยู่ในปางช้างนั้นก็ยังไม่ดีพอ ทำให้การดูแลรักษาช้างนั้นไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ช้างอยู่ในสภาพที่เจ็บป่วยเรื่อยๆ หรือบางเชือกต้องเสียชีวิตไปด้วยเหตุที่ไม่สมควร การจัดตั้งหน่วยพยาบาลช้างชราและพิการในพื้นที่ปางช้างที่อยู่ห่างไกลและขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นนั้น จะเป็นการช่วยเหลือดูแลช้างเหล่านั้นได้มากขึ้น มีการดูแลรักษาช้าง การตรวจสุขภาพ และการจัดตารางกิจกรรมสำหรับช้าง ซึ่งจะส่งผลให้ช้างยังคงมีสุขภาพกายและใจที่ดี และได้รับการดูแลรักษาได้อย่างเหมาะสมทันทีเมื่อช้างเจ็บป่วย ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นของคนเลี้ยงช้าง
ระยะเวลาโครงการ 5 เดือน พื้นที่ดำเนินโครงการ ระบุพื้นที่: ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
ยอดบริจาคขณะนี้
238,050 บาทเป้าหมาย
440,000 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
มูลนิธิช้างปันใจสู่ชาวดอย เริ่มปลูกอาหารช้างและพาช้างไปโรงพยาบาล
มูลนิธิช้างปันน้ำใจสู่ชาวดอย นำเงินบริจาคที่ได้รับบริจาคไปปลูกอาหารช้างเพิ่มเติม และเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแล รักษาช้าง เคลื่อนย้ายช้างไปยังโรงพยาบาล และพากลับบ้าน
พาพังช้างแม่บุญมีที่ป่วยไปรักษาโรงพยาบาล จนสามารถกลับบ้านได้
ปลูกหญ้าเนเปียร์ เป็นอาหารช้าง
ปัญหาสังคมและวิธีการแก้ไขปัญหา
ในช่วง 40 กว่าปีที่ผ่านมาเราพบว่าช้างเลี้ยงเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจการท่องเที่ยวมากขึ้น และมีอัตราการเพิ่มขึ้นของปางช้างหรือแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละปีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งช้างที่ถูกนำมาใช้งานนั้นก็ย่อมมีโอกาสเจ็บป่วยจากการทำงานและ สภาพแวดล้อม ที่อยู่อาศัย โรคติดต่อ ทำให้เกิดโรคหรือความผิดปกติของสุขภาพร่างกายและจิตใจ
ในปัจจุบันก็พบว่าช้างเลี้ยงที่ถูกนำมาใช้งานเหล่านั้นเริ่มมีอายุมากขึ้น เกือบร้อยละ 60 จะเป็นช้างที่มีอายุระหว่าง 40 – 60 ปี และอีกร้อยละ 10 จะเป็นช้างที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งถือว่าเป็นช้างชรา เจ้าของช้างไม่สามารถใช้ประโยชน์จากช้างได้ ช้างจะถูกใช้งานบ้างหรืองดใช้งานและถูกเลี้ยงไว้เฉยๆ ขาดการดูแล เลี้ยงดูที่เหมาะสมเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดการที่อยู่อาศัย อาหาร กิจกรรมของช้างในแต่ละวัน การเดิน การยืน การนอน และการขับถ่าย ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ผู้เลี้ยงช้างกลุ่มนี้จะต้องให้ความสำคัญมาก
เมื่อกลุ่มช้างชราเกิดเจ็บป่วยหรือมีความผิดปกติ มีบาดแผล การจัดการในเบื้องต้นนั้นควาญช้าง ผู้ดูแลช้าง และเจ้าของช้าง จะเป็นผู้ที่ต้องให้การดูแลรักษา โดยอาศัยยาและเวชภัณฑ์ที่มีอยู่ในขณะนั้นนำมาใช้รักษาช้างก่อน และหากอาการเจ็บป่วยหรือความผิดปกตินั้นไม่บรรเทาเบาบางลง ก็จะติดต่อสัตวแพทย์ที่อยู่ใกล้เคียงให้เข้าไปทำการรักษา หรือหากพบว่ามีอาการรุนแรง ก็จะทำการส่งต่อไปยังสถานพยาบาลช้างที่มีความพร้อมในการดูแลรักษาต่อไป
แต่เนื่องจาก สถานที่ตั้งของปางช้างบางแห่งนั้นอยู่ห่างไกลจากสถานพยาบาลช้างที่มีความพร้อมประกอบกับข้อจำกัดที่ช้างชรามีอายุมาก การเคลื่อนย้ายขนส่งช้างเป็นระยะทางไกลๆ จึงไม่ค่อยแนะนำ อีกทั้งความพร้อมของยาและเวชภัณฑ์ที่มีอยู่ในปางช้างนั้นก็ยังไม่ดีพอ ทำให้การดูแลรักษาช้างนั้นไม่ประสบความสำเร็จในการดูแลรักษา ทำให้ช้างอยู่ในสภาพที่เจ็บป่วยเรื่อยๆ หรือบางเชือกต้องเสียชีวิตไปด้วยเหตุที่ไม่สมควร
ดังนั้น การจัดตั้งหน่วยพยาบาลช้างชราและพิการในพื้นที่ปางช้างที่อยู่ห่างไกลและขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นนั้น จะเป็นการช่วยเหลือดูแลช้างเหล่านั้นได้มากขึ้น มีการดูแลรักษาช้าง การตรวจสุขภาพ และการจัดตารางกิจกรรมสำหรับช้าง ให้ช้างได้ทำ ซึ่งจะส่งผลให้ช้างยังคงมีสุขภาพกายและใจที่ดี และได้รับการดูแลรักษาได้อย่างเหมาะสมทันทีเมื่อช้างเจ็บป่วย ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นของคนเลี้ยงช้างและเจ้าของช้างด้วย
เรายังคงพยายามหาวิธีที่จะดูแลช้างและควาญช้างของเราอย่างดีที่สุด แม้ว่าจะผ่านการระบาดมาถึง 4 รอบแล้ว วิธีการแก้ปัญหาของเราอย่างแรก คือเปิดรับบริจาคจากบุคคลธรรมดาและห้างหุ้นส่วนจำกัดต่างๆ รวมถึงการใช้เทคนิคทางการตลาดต่างๆ (facebook ads) และการผลิตผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิเพื่อหารายได้มาสนับสนุนค่าใช้จ่าย นอกจากนี้เรายังพยายามอย่างมากที่จะลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ลดได้เพื่อพยุงให้มูลนิธิยังคงเดินหน้าไปได้ต่อ
ขั้นตอนการดำเนินโครงการ
เมื่อระดมทุนแล้ว มูลนิธิส่งมอบเงินให้กับโครงการช่วยเหลือช้างและควาญช้างในเขตแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสนับสนุนในด้านต่างๆ ดังนี้
- ค่าอาหารช้าง (หญ้าสด อาหารเสริม อาหารเม็ด สมุนไพร ข้าวเหนียวนึ่ง) โดยทางมูลนิธิรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และอีกส่วนหนึ่งคือการเช่าสวนเพื่อปลูกหญ้าให้ช้างอีกด้วย
- ยาและเวชภัณฑ์ อาหารเสริม สำหรับช้างชราและช้างป่วย/พิการ โดยทางมูลนิธิจะจัดซื้อยาตามรายการของสัตวแพทย์ เพื่อมอบให้แก่ปางช้างและเจ้าของช้าง โดยเป็นยามาตราฐานและยาจำเป็นที่ควาญช้างควรมี
- จ้างควาญช้างให้เป็นคนตัดหญ้าเองเพื่อช่วยเหลือด้านรายได้ในช่วงที่ไม่มีงาน ในช่วงวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID- 19
ผู้รับผิดชอบโครงการ
ประธานมูลนิธิ
นัยน์ปพร หัตถการ
ผู้ประสานงาน
สุชัญญา นิยมกิจการกุล
สัตวแพทย์ประจำมูลนิธิ
นายสัตวแพทย์ วรุตม์ วงศ์กาฬสินธุ์
มูลนิธิช้างปันน้ำใจสู่ชาวดอย บริจาคอาหารให้ช้างที่ปางโชคชัย หมอลงพื้นที่ช่วยเหลือช้าง
การช่วยเหลือช้าง/ปางช้างในพื้นที่ห่างไกล
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2565 ทีมงานมูลนิธิช้างปันน้ำใจสู่ชาวดอย ได้มีโอกาสบริจาคอาหารช้างและข้าวสารให้ควาญช้าง ที่ปางช้างโชคชัย ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปางช้างขาดรายได้และความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการหารายได้เสริม ปางช้างโชคชัยมีช้างทั้งหมดจำนวน 54 เชือก โดยผู้ดูแลปางต้องการให้ช้างมีอาหารที่เพียงพอในแต่ละวัน และมีควาญช้างดูแลช้างในจำนวนที่เหมาะสม
การรักษาช้างของมูลนิธิ (veterinarian report)
ช้างที่ป่วยเป็นพี่ช้างเพศเมีย อายุ 25 ปี เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารที่มีสาเหตุโน้มนำหลักมาจากการกินดินเพื่อถ่ายท้อง (ซึ่งเป็นพฤติกรรมปกติในช้าง) และดินมีการปนเปื้อนของสารเคมีและปุ๋ยที่ใช้ในการเกษตร
วันแรก มีอาการท้องเสีย อุจจาระเละ เหลว ไม่จับตัวเป็นก้อน
วันที่ 2 พี่ช้างยืนซึม งวงตก ผลุดลุกผลุดนั่ง เอางวงตีและเป่าท้อง บางครั้งเดินวน โยกตัวไปมา หูไม่ค่อยโบก หางแกว่งช้า ยืนอ้าปากหายใจ และยังไม่พบอุจจาระช้างเลยคาดว่าช้างอาจจะเกิดอาการท้องผูก
จากการถามประวัติพบว่าช้างไปกินดินและหญ้าที่ปลูกติดกับแปลงดอกไม้ที่ปลูกข้างๆ ปางช้าง ซึ่งพบว่ามีการใช้ปุ๋ยและสารเคมีเพื่อการเกษตรเป็นประจำ และเมื่อช่วงวันที่ 16-17 เมษายน เกิดฝนตกหนัก ชะล้างเอาดินและน้ำจากแปลงดอกไม้ไหลลงพื้นที่แปลงหญ้าช้างที่อยู่ต่ำกว่า
แผนการรักษาพี่ช้าง คือการให้สารน้ำ ให้ยาลดปวดอักเสบ และให้ยาและสารอาหาร ทางหลอดเลือดดำและกล้ามเนื้อ วางแผนการล้วงอุจจาระทางทวารหนักหรือล้วงก้นนั่นเอง บวกกับการเสริมอาหารโปรไบโอติกเพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ที่ช่วยในกระบวนการหมักย่อยในลำไส้ส่วนท้ายและกระตุ้นระบบการทำงานของระบบทางเดินอาหารของช้างให้กลับมาทำงานเป็นปกติ
ภายหลังการรักษา ด้วยการฉีดยา โดยไม่ได้ทำการล้วงอุจจาระ และเฝ้าดูอาการของช้าง ก็พบว่าพี่ช้างเริ่มแสดงอาการดีขึ้น กินกล้วยและต้นข้าวโพดทั้งต้น กินน้ำ ใช้งวงหยิบจับอาหาร โบกหูและแกว่งหางได้ดีขึ้น และขับถ่ายอุจจาระออกมาได้
การจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหา
- แนะนำให้ปางช้างจัดทำโรงเรือนเก็บอาหารช้าง (หญ้า ต้นข้าวโพดและกล้วย) และให้ช้างกินพืชอาหารช้างจากแหล่งที่เตรียมให้เท่านั้น
- จัดทำระบบน้ำดื่มและน้ำใช้ให้แก่ช้าง
- และกั้นแนวเขต และแจ้งควาญช้างว่า ห้ามให้พี่ช้างไปกินหญ้าและน้ำในแหล่งใกล้แปลงพืชเกษตรกรรม
- ติดตามดูอาการช้างต่อเนื่อง ( เฝ้าดูพฤติกรรม และ อุจจาระของช้าง)
พี่ช้างพังบุญเงิน อายุ 30 ปี มีอาการลิ่มเลือดใหลออกจากอวัยะเพศ และบางครั้งพบว่ามีเลือดสดไหลปนออกมากับปัสสาวะ ปัสสาวะกระปริบกระปรอย แต่พี่ช้างยังคงกินอาหารและน้ำได้ปกติ การขับถ่ายอุจจาระปกติ การเดิน การนอนปกติ ไม่มีอาการซึม การตรวจร่างกาย และเฝ้าดูพฤติกรรมก็ปกติ สีของเยื่อเมือก สี Pale pink ชุ่มชื้นดี หมอจึงทำการเก็บตัวอย่างเลือด และ ตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม
ผลการตรวจเลือด
- พบว่าค่าเลือด เม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติเล็กน้อย
- ค่า Liver function test ปกติทั้งหมด
- ค่า Kidney function test พบว่า BUN และ CREATININE สูงกว่าปกติเล็กน้อย
ผลตรวจปัสสาวะ
- มีความขุ่น - สีขาวขุ่น และ เหลืองข้น
- มี Hemolysis +3
- กลิ่นไม่เหม็น
- ไม่พบตะกอน หรือ นิ่ว ไม่พบแบคทีเรีย / เชื้อโรคอื่นๆ
แผนการรักษา
- เก็บตัวอย่างน้ำดื่มของช้างไปตรวจคุณภาพเพิ่มเติม
- พิจารณาให้ยาปฏิชีวนะและยาลดการอักเสบ หากพี่บุญเงินมีอาการซึม
- เพิ่มอาหารเสริมและยาบำรุงเลือด
และให้ควาญช้างเฝ้าดูพฤติกรรมพี่ช้างบุญเงินทุกวัน และรองปัสสาวะช้างมาตรวจดูลักษณะทางกายภาพ (ใช้ภาชนะสีขาว/ใส) และถ่ายรูปเก็บไว้ส่งรายงานให้ช้างกินน้ำสะอาดมากขึ้น โดยให้ปางช้างจัดทำระบบบำบัดน้ำและกรองน้ำดื่มสำหรับช้าง (ทำน้ำพุเพิ่มในบ่อ และ มีถังกรอง) และอีก 1 สัปดาห์ หมอวางแผนตรวจร่างกายพี่ช้างอีกครั้ง
เราหวังว่าพี่เค้าจะอาการดีขึ้น มาเอาใจช่วยพี่ช้างบุญเงินไปด้วยนะคะ
มูลนิธิช้างปันใจสู่ชาวดอย เริ่มปลูกอาหารช้างและพาช้างไปโรงพยาบาล
มูลนิธิช้างปันน้ำใจสู่ชาวดอย นำเงินบริจาคที่ได้รับบริจาคไปปลูกอาหารช้างเพิ่มเติม และเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแล รักษาช้าง เคลื่อนย้ายช้างไปยังโรงพยาบาล และพากลับบ้าน
พาพังช้างแม่บุญมีที่ป่วยไปรักษาโรงพยาบาล จนสามารถกลับบ้านได้
ปลูกหญ้าเนเปียร์ เป็นอาหารช้าง
แผนการใช้เงิน
ลำดับ | รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|---|
1 | ค่าอาหารช้าง (หญ้าเนเปีย สัปปะรด อ้อย กล้วย แตงโม ฟักทอง) เป็นเวลา 5 เดือน | 5 เชือก | 300,000.00 |
2 | ค่ายาและเวชภัณฑ์ช้าง เป็นเวลา 5 เดือน | 5 เชือก | 100,000.00 |