ความเคลื่อนไหว

     

     

รายการจิ๊กซอว์ประเทยไทย วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558www.taejai.com ออกอากาศนาทีที่ 13.46-18.30น.

     

สัปดาห์นี้ไปรู้จักกับคุณวรรธนัย ชนะคช ชายหนุ่มที่อ่านหนังสือเจ้าชายน้อย จนกลายเป็นแรงบันดาลใจที่จะต่อยอดทำหอศิลปะ เพื่อชุมชนด้วยการระดมทุน จากนั้นไปติดตามโครงการดีๆ ที่คัดสรรหนังสือดี สำหรับเด็กวัย 9-12 ปี  คุณวรรธนัย ชนะคช เจ้าของโครงการหอศิลป์ชุมชมลาดพร้าว ศิลปะสำหรับทุกคน! หนึ่งในโครงการในเว็บไซต์เทใจดอทคอม

เป็นนักแสดงอีกคนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นคนใจบุญและชอบช่วยเหลือ สำหรับดาราสาว “เก๋ ชลลดา เมฆราตรี” ซึ่งมีหมวกอีกใบเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ “เดอะ วอยซ์ เสียงจากเรา” ที่เริ่มจัดตั้งขึ้นเพราะต้องการช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทิ้งจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทยเมื่อปี 2554 กระทั่งปัจจุบันมีสัตว์จรจัดหลากหลายประเภททั้ง สุนัข แมว ช้าง ม้า ลิง ฯลฯ กว่า 500 ตัว โดยมูลนิธิเดอะ วอยซ์นี้ ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ 4 ด้าน คือ รณรงค์ให้ผู้ที่ประสงค์จะเลี้ยงสัตว์ดูความพร้อมของตัวเองก่อน หากไม่พร้อมไม่เลี้ยง, รณรงค์ให้ดูแลสัตว์เลี้ยงของตนจนถึงวาระสุดท้ายของเขา, รณรงค์ให้เลี้ยงแล้วต้องรับผิดชอบ และสุดท้าย คือ รณรงค์ให้เกิด พรบ.คุ้มครองสัตว์ ซึ่งตรงนี้ก็ก่อให้เกิดแนวทางในการดำเนินงานอยู่ 3 อย่าง โดยแต่ละอย่างนั้นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชนผู้ใจบุญทุกคนด้วย “ข้อที่สำคัญที่เรากำลังผลักดันอยู่ คือ รณรงค์ให้เกิด พรบ.คุ้มครองสัตว์ เพราะเราเชื่อว่าหากเกิดพรบ.ดังกล่าวจะเกิดการแก้ไขปัญหาเรื่องสัตว์เลี้ยงได้ดีขึ้น คนที่รักสัตว์อยู่แล้วไม่เป็นไร แต่คนที่ไม่รัก อย่างน้อยเขาก็จะเกรงกลัวกับบทลงโทษตรงนี้ สำหรับเดอะ วอยซ์วันนี้เราดูแลกว่า 500ชีวิตในทุกๆเดือนและสัตว์จรที่หาบ้านไม่ได้ถาวรกว่า150ตัว ยังไม่รวมที่เราไปช่วยสัตว์ที่ถูกทำร้าย ม้าแข่งที่ปลดระวาง ช้างที่ควาญช้างพามาหากินในเมือง ที่เราจะฝึกมันแล้วคืนสู่ป่า และลิงที่ลพบุรีที่ปัจจุบันมีประชากรลิงเพิ่มขึ้นสูงมาก เราจะทำการย้ายไปไว้ที่นครนายก ตรงนี้เก๋ไม่ได้ทำคนเดียว แต่มีหลายหน่วยงานที่ไปลงพื้นที่ด้วยกัน อย่าง สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย มูลนิธิเพื่อนช้าง และมูลนิธิรักสัตว์ป่า ผู้ที่มีความรู้เฉพาะทาง คณะสัตวแพทย์ ค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำหมัน จึงอยูที่ 500,000-600,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมันจะเพิ่มขึ้นทุกปี ตรงนี้เราจึงมีการขอรับบริจาคผ่านเทใจดอทคอม ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในรูปแบบคราวน์ฟันดิ้ง ระดมทุนผ่านอินเตอร์เน็ต โดยเงินที่ได้มาจากการบริจาคนั้น เราจะนำมาเพื่อเพื่อทำงานใน 3 ด้าน คือ1.ค่ารักษาหมา-แมวและสัตว์ป่่วย หรือที่ถูกทำร้าย เพราะเราอยากให้ทุกชีวิตได้รับการรักษา แม้จะมีโอกาสแค่ 1 % เราก็อยากให้โอกาสพวกเขาได้สู้ต่อ 2.ค่าวัคซีนให้สัตว์จรต่าง ๆ เช่น วัคซีนพิษสุนัขบ้า วัคซีนไข้หัด วัคซีนลำไส้ เป็นต้น เพราะหากสัตว์ไม่รับวัคซีนเหล่านี้มีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก และสุดท้าย.เราประสงค์จะสร้างสถานดูแลสัตว์จร จ.สุพรรณบุรีเพื่อใช้ดูแลสัตว์จรเพิ่มเติม เป็นโรงพักพิง ก็จะเหมือนกับโรงพยาบาล พอรักษาสัตว์ที่บาดเจ็บเสร็จแล้วเขาไม่มีที่ไป เราก็อยากให้ที่นี่เป็นที่พักพิง อยากจะได้อาคาร ที่เป็นโรงปิดมิดชิด มีคอกผู้ป่วยให้เค้าไม่เครียด ระหว่างหาบ้านใหม่ค่ะ ตรงนี้คนที่ทำงานกับเก๋ไม่มีใครรับเงินเลย ทุกคนทำงานด้วยใจจริงๆก็อยากจะฝากไว้ตรงนี้นะคะ 30 บาท ของคุณสามารถเปลี่ยนเป็นค่าอาหารหมาแมวได้ 1 วัน 1 ตัว200 บาท ของคุณสามารถเปลี่ยนเป็นวัคซีนที่จำเป็นต่อหมาแมวได้ตลอด 1 ปีเราจึงอยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันตั้งกองทุนด้วยกัน ซึ่งเราตั้งใจระดมทุน 1,000,000 บาท โดยเปิดการระดมเป็น 3 ช่วงคือ 300,000 ,500,000 และ 1,000,000 บาท เพื่อใช้ทำงานในสามข้อข้างต้น” ติดตามรายละเอียดการบริจาคเพื่อช่วยเหลือสัตว์ขาดที่พึ่งและมูลนิธิเดอะ วอยซ์ ได้ที่ www.taejai.com

     

ขอเชิญร่วมบริจาคโครงการกับเทใจระดมทุนส่งน้องเรียนจนจบมัธยมปลาย หรือ เทียบเท่า ร่วมบริจาค "ส่งน้อง(ด.ญ.นัท ม.1)เรียน สร้างเด็กดี " ดีใจกับน้องๆ 30 คนที่ได้เรียนต่อในระดับชั้นมัธยม 1 และเราไม่อยากฝันน้องหยุดกลางอากาศจร้าาาา เราจึงอยากจะชักชวนทุกท่านมาร่วมส่งน้องๆ 30 คนนี้ให้ถึงฝั่ง สามารถพึ่งพาตัวเองและเป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้ โดยระดมทุนส่งน้องเรียนจนจบมัธยมปลาย หรือ เทียบเท่า ร่วมบริจาคได้แล้วที่นี้นะค่ะ มาส่งเด็กเรียน สร้างเด็กดีกันนะฮะข้อมูลพื้นฐานโครงการพื้นที่ในการดำเนินการ : นครสวรรค์เงินทุนที่ต้องการ : 35,000 บาทที่มา/ความสำคัญของโครงการ“หนูอายุ 12 ปี 3 เดือน กำลังศึกษาอยู่ โรงเรียนในจังหวัดนครสวรรค์ พ่อแม่ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป  ปัจจุบันหนูอยู่กับตาและยาย  พ่อแม่หนุแยกทางกันตั้งแต่หนู 7 ขวบ พ่อมีครอบครัวใหม่ จึงไม่ได้ส่งเสียเงินทองเพื่อเลี้ยงดูหนู แต่นานๆ ครั้งก็จะมาเยี่ยมบ้าง ส่วนแม่ของหนูตอนนี้ไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพ แม่มีรายได้น้อย ท่านจึงไม่สามารถส่งเงินมาให้ตายายมาได้มากนัก เดือนหนึ่งอาจจะส่งมา 1,000-2,000 บาท แต่ก็ไม่ประจำทุกเดือน  รายได้ส่วนใหญ่มาจากตาที่ตอนนี้มีอายุ 60 กว่าปีแล้วเข้าสู่วัยชรา สายตาพร่ามัว แต่คุณตาก็ยังทำงานด้วยความขยันขันแข็ง โดยเมื่อว่างจากการทำนา (เช่าที่นาคนอื่น) ตาก็ออกรับจ้างทั่วไปเพื่อหารายได้มาเลี้ยงหนูกับยาย เพราะยายหนูป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมทำงานไม่ได้  ยามที่ตาออกไปทำงานรับจ้างก็จะฝากเพื่อนบ้านใกล้เคียงให้ดูแลยาย บางครั้งหนูก็ต้องหยุดเรียนเพื่อดูแลยาย    “หนูตั้งความหวังว่าจะพยายามเรียนให้จบปริญญาตรี เพื่อจะได้มีโอกาสได้ทำงานดี ๆ คุณครูประจำชั้นอบรมสั่งสอนหนูเสมอว่า เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกจะเดินไปสู่อนาคตที่ดีได้ หากเรามีความพยายาม มุมานะ เป็นคนดี ชีวิตเราก็จะดี”   ทุกวันนี้หนูตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ช่วยเหลืองานบ้านทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เชื่อฟังคำสั่งสอนของ พ่อ แม่ ตา ยาย และครูทุกท่าน หากอนาคตข้าพเจ้าได้มีโอกาสเรียนต่อระดับสูง ได้ประกอบอาชีพมีรายได้มากพอที่จะเลี้ยงตายายให้มีความสุข เลี้ยงดูแม่ที่หนูรักและคิดถึงเหลือเกิน ได้รับอยู่กับแม่ทุกวัน ไม่ต้องให้แม่จากไปทำงานไกล ได้กอดแม่อย่างที่หนูฝันทุกวัน วันนั้นก็คงเป็นวันที่หนูมีความสุขที่สุดในชีวิต   หนูขอขอบพระคุณทุกคนที่ทำให้หนูให้ทุกการศึกษาค่ะ   **หมายเหตุ เด็กคนนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้ทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อในชั้น ม.1 จากคนใจดีในเทใจกันแล้ว  แต่จะดีไหมที่เราจะทำให้เด็กเหล่านี้มีทุนเรียนต่อจนจบมัธยมปลาย หรือ สายอาชีพ เพื่อให้พวกเขาเหล่านี้ได้มีสินทรัพย์อันล้ำค่าในการดูแลตัวเอง ครอบครัว และสังคมไทยต่อไป**ประโยชน์ของโครงการเงิน 600 บาท มีค่าแค่ไหนสำหรับคุณ?สำหรับชีวิตของเด็กที่ขาดแคลน เงินจำนวนนี้ช่วยส่งให้เขาเรียนไปโรงเรียนต่อได้อีก 1 เดือนร่วมลงขันเพื่อมอบอนาคตให้กับพวกเขา ผ่านโครงการ "ส่งน้องเรียน สร้างเด็กดี" วันนี้• เพื่อที่เยาวชนไทยของเราจะได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานตามที่ควรจะเป็น• เพื่อที่เยาวชนไทยของเราจะเติบโตอย่างมีความรู้ควบคู่คุณธรรม• เพื่อที่เยาวชนไทยของเราจะเป็นอนาคตของประเทศไทยได้อย่างแท้จริงกิจกรรมที่โครงการจะดำเนินการการมีส่วนร่วมด้วยการบริจาคเงินของท่านจะทำให้มูลนิธิฯ สามารถขยายโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนที่ขาดโอกาสได้ทั่วถึงมากขึ้น โดยมูลนิธิฯ จะคัดเลือกนักเรียนที่เหมาะสมจากทั่วประเทศเพื่อให้ทุนการศึกษาแบบต่อเนื่องและดูแลนักเรียนด้วยความเอาใจใส่ โดยจะส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนต่อจนจบมัธยม 6 ทั้งนี้ นักเรียนที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับทุนการศึกษา ปีละ 7,000 บาท ต่อเนื่องทุกปีจนเรียนจบ โดย 6 ปีใช้งบประมาณทั้งหมด 42,000 บาทการคัดเลือกนักเรียนทุนในแต่ละปี มูลนิธิฯ จะดำเนินการร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาโดยมูลนิธิฯ จะเป็นผู้คัดเลือกนักเรียนทุนในรอบสุดท้าย ทั้งนี้ จะพิจารณาจากสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวและเรื่องราวชีวิตของนักเรียน  ตลอดระยะเวลาของการเป็นนักเรียนทุนของมูลนิธิยุวพัฒน์ นักเรียนทุนจะได้รับการดูแลและปลูกฝังคุณธรรมจากมูลนิธิฯ ผ่านการเขียนจดหมายโต้ตอบ พูดคุยโทรศัพท์ เยี่ยมเยียนนักเรียนทุน และยุวพัฒน์สาส์น – วารสารราย 3 เดือนที่เปี่ยมด้วยเนื้อหาและคุณค่าสำหรับการพัฒนาตนเองให้เป็นคนดีมีความรู้รอบตัวและมีความรับผิดชอบต่อสังคม