สร้างฝายแกนดินซีเมนต์ ต้านภัยแล้งแบบมีส่วนร่วมชุมชนต้นน้ำน่าน
ลำน้ำมวบจะประสบปัญหาแห้งขอดในหน้าแล้ง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนจนถึงช่วงเดือนพฤษภาคม ทุกปีชาวบ้านช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้นลำน้ำ พอถึงฤดูฝนน้ำหลากก็จะถูกน้ำพัดหายไปหมด ฝายแกนดินซีเมนต์จะช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำอย่างยั่งยืนให้กับ 18 หมู่บ้าน 1,650 หลังคาเรือน
Duration 01 เม.ย. 2567 ถึง 30 มิ.ย. 2567 Area ระบุพื้นที่: ลำน้ำมวบ ในพื้นที่ ต.พงษ์ ต.ดู่พงษ์ ต.ป่าแลวหลวง อ.สันติสุข จ.น่าน
Current donation amount
30,328 THBTarget
1,100,000 THBปัญหาสังคมและวิธีการแก้ไขปัญหา
พื้นที่ของจังหวัดน่านส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เขาสูงชัน การกักเก็บน้ำไว้สำหรับอุปโภคบริโภคเพื่อการเกษตรเป็นไปได้ค่อนข้างยากลำบาก ดังนั้นการขาดแคลนน้ำจึงส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนโดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง
อำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ตำบล มีประชากรราว 15,681 คน มี “ลำน้ำมวบ” ไหลผ่าน ซึ่งน้ำจะไหลลงที่ลำน้ำยาวและไหลลงไปยังแม่น้ำน่าน ลำน้ำมวบจึงนับว่าเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญที่ชาวบ้านทั้ง 3 ตำบล 18 หมู่บ้านใช้ประโยชน์จากลำน้ำแห่งนี้ในการดำรงชีวิต ผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน รวมถึงการทำการเกษตร
ลำน้ำมวบจะประสบปัญหาแห้งขอดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนจนถึงช่วงหน้าแล้ง ทุกปีชาวบ้านจะช่วยกันบรรจุกระสอบทรายมากั้นลำน้ำ แต่พอถึงฤดูฝนน้ำหลากก็จะถูกน้ำพัดหายไปหมด และของบประมาณมาซื้อกระสอบทราย กระสอบปุ๋ยเป็นประจำทุกปี บางปีที่แล้งมากๆ น้ำไม่พอใช้ต้องมีการเปิดปิดน้ำเป็นช่วงเวลา หน่วยงานท้องถิ่นต้องใช้รถขนน้ำไปให้บริการตามหมู่บ้าน
มูลนิธิส่งเสริมการเรียนรู้ชุมชนวัดโป่งคำ ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่ มีแผนก่อสร้างขยายฝายแกนดินซีเมนต์ในพื้นที่ลำน้ำมวบกระจายในทุกตำบล จำนวน 4 จุด ได้แก่
- จุดที่ 1 บ้านห้วยแฮ้ว ตำบลพงษ์
- จุดที่ 2 บ้านโป่งคำ ตำบลดู่พงษ์
- จุดที่ 3 บ้านน้ำโซ้ง ตำบลดู่พงษ์
- จุดที่ 4 บ้านป่าอ้อย ตำบลป่าแลวหลวง
การสร้างฝายชะลอน้ำแกนดินซีเมนต์จึงเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำได้เป็นอย่างดี จะช่วยยกระดับน้ำใต้ดินให้สูงขึ้น สระเก็บน้ำที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น เกษตรกรทั้งสองฟากฝั่งได้อาศัยน้ำในการทำการเกษตร พื้นดินยังมีความชุ่มชื้น ฟื้นฟูระบบนิเวศน์ และเป็นต้นทุนน้ำดิบหล่อเลี้ยงชีวิตให้ชุมชน มีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังมีราคาถูกใช้ต้นทุนในการก่อสร้างต่ำ สามารถสร้างเสร็จได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ระยะเวลาเพียง 5 – 15 วัน และมีประสิทธิภาพในการชะลอและเก็บกักน้ำได้เป็นอย่างดี คนในชุมชนสามารถมีส่วนร่วมในการก่อสร้าง และซ่อมแซมได้ด้วยตัวเอง เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับท้องถิ่น
ตัวอย่างความสำเร็จ: ฝายแกนดินซีเมนต์วัดโป่งคำ
ฝายแกนดินซีเมนต์วัดโป่งคำ ตำบลดู่พงษ์ อำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน เป็นตัวอย่างความสำเร็จของการสร้างฝายแกนดินซีเมนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดน่าน ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จช่วงกลางเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ CSR จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมทั้งได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรในการก่อสร้างจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานจากองค์การบริหารส่วนตำบลดู่พงษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ โดยมีนายช่างผู้ชำนาญงานจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่เข้ามาให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำในการสร้างฝาย ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้การประสานการดำเนินงานของพระครูสุจิณนันทกิจ เจ้าอาวาสวัดโป่งคำ และนายอำเภอสันติสุข ตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นทั้งแรงงานและกำลังในด้านเสบียงอาหาร
ฝายแกนดินซีเมนต์ที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องบ้านโป่งคำนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ มีน้ำเอ่อขึ้นไปถึง 500 เมตร ชาวบ้านได้ประโยชน์ 300 ครัวเรือน เป็นพื้นที่ 500 กว่าไร่ พื้นที่มีความชุ่มชื้นกลับมา สามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์ในการเกษตรหลังฤดูทำนาได้ ลดปัญหาการขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ในช่วงฤดูแล้ง เมื่อถึงฤดูน้ำหลากฝายจะจมน้ำ สามารถนำไปเป็นโมเดลในการสร้างฝายอื่นๆ ในลำน้ำสาขาหลักของจังหวัดน่านต่อไป
ขั้นตอนการดำเนินโครงการ
1. สร้างความเข้าใจชุมชนและกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ ทำประชาคม ดำเนินกิจกรรม (ปัจจุบันได้ดำเนินการประชาคมหมู่บ้านครบทั้ง 4 พื้นที่เรียบร้อยแล้ว)
2. ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องการขออนุญาตก่อสร้างและประสานงานขอสนับสนุนงบประมาณ (ทางมูลนิธิฯ ได้จัดทำหนังสือเพื่อขอความอนุเคราะห์สนับสนุนเครื่องจักรกลในการก่อสร้างไปยังทั้ง 3 อบต. เรียบร้อยแล้ว)
3. ดำเนินการกิจกรรมตามแผนงานดำเนินการก่อสร้าง โดยใช้เวลาก่อสร้าง ประมาณ 7-10 วัน ต่อฝาย
4. จัดตั้งคณะกรรมการและกองทุนดูแลบำรุงรักษาฝาย
เราเชื่อว่าหากเกิดฝายแกนดินซีเมนต์จะทำให้ลดความขาดแคลนน้ำของชาวบ้านกว่า 1,650 ครัวเรือน และส่งผลให้ชาวบ้านทำการเกษตรได้และที่สำคัญทำให้ พื้นที่ต้นน้ำมีความชุ่มชื้นกลับมา เพิ่มพื้นที่สีเขียวมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ลดปัญหาหมอกควันและไฟป่าและ ลดปัญหาน้ำท่วมในตัวเมืองน่าน
ผู้รับผิดชอบโครงการ
มูลนิธิส่งเสริมการเรียนรู้ชุมชน วัดโป่งคำ อ.สันติสุข จ.น่าน
Facebook: https://facebook.com/pongkum2532
Budget plan
ลำดับ | รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|---|
1 | ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก สูตรไฮบริด | 2,840 ถุง | 472,600.00 |
2 | ท่อ PVC ชั้น 13.5 ขนาด 6’’ | 12 ท่อน | 16,380.00 |
3 | ข้องอ 90 PVC ขนาด 6’’ | 4 ตัว | 1,120.00 |
4 | กาวประสานท่อ ขนาด 500 กรัม | 4 กระป๋อง | 1,200.00 |
5 | แผ่นใยสังเคราะห์ เบอร์ 400 ก/ตร.ม. (x10ชั้น) | 2,840 ตร.ม. | 299,200.00 |
6 | เหล็กข้ออ้อย SD40 12 มม. 10 ม. | 212 เส้น | 49,460.00 |
7 | ทรายละเอียด | 10 คิว | 14,040.00 |
8 | น้ำมันเชื้อเพลิง (รถเทเลอร์ 1 คัน, รถขุดตักตีนตะขาบ 3 คัน, รถบรรทุก 1 คัน) | 4,800 ลิตร | 146,000.00 |
9 | งานเครื่องจักรกล : ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน และองค์การบริหารส่วนตำบลดู่พงษ์ ตำบลพงษ์ ตำบลป่าแลวหลวง | - | 0.00 |
10 | แรงงาน : ประชาชนในพื้นที่ร่วมดำเนินการ | - | 0.00 |