บุญเย็นๆไอซ์บัคเก็ต องศาเดือดต้านโกง

At 15 September 2014
“ไอซ์บัคเก็ต” หรือ “การเอาน้ำแข็งราดหัว” โครงการรณรงค์ทางสังคม เพื่อระดมเงินบริจาคสมทบมูลนิธิ ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis)...โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
จุดเริ่มต้น...มาจากอดีตนักกีฬาเบสบอลระดับมหาวิทยาลัยคนหนึ่งของสหรัฐฯที่ป่วยเป็นโรคนี้ จุดประกายเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังประเทศอื่นทั่วโลกรวมถึงไทย
กระแสร้อนแรงที่เหล่าคนดังทุกวงการทั่วฟ้าเมืองไทย ไม่ว่านักธุรกิจ ดารา ซีอีโอ ต่างร่วมกิจกรรม “ไอซ์บัคเก็ต” กันอย่างคึกคัก จนปลุกกระแสให้คนไทยหันมาสนใจ ให้การสนับสนุนบริจาคเงินกับ “โครงการเพื่อสังคม” ผ่านช่องทางเว็บไซต์ “เทใจ” (www.taejai.com) ที่มีตราสัญลักษณ์เป็น “เจ้าเหมียวนำโชค”
พบว่า ยอดการสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมผ่านเว็บไซต์เทใจ ช่วงกระแสไอซ์บัคเก็ตพุ่งทันที 5 แสนบาท มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเกือบ 1,200 คน และมีผู้บริจาคเงิน ทั้งที่เป็นรายเก่าและรายใหม่เกือบ 500 ราย
5 โครงการเพื่อสังคมที่ได้รับความนิยมตามกระแสไอซ์บัคเก็ต ได้แก่ ฟาร์มไข่ไก่ เพื่อการศึกษาน้อง, Documentary Club คลับหนังสารคดีที่คนไทยควรได้ดู, 20 ทุนการศึกษาเพื่อสร้างอนาคตใหม่ให้น้อง, สร้างอาชีพให้แม่หญิงใต้ที่สูญเสียสามีจากความไม่สงบ และเล่นเส้น ชุดวาดเขียนสำหรับน้องผู้พิการทางสายตา
โดยเฉพาะ “โครงการฟาร์มไข่ไก่ เพื่อการศึกษาน้อง” เพิ่งได้รับเงินบริจาคก้อนใหญ่ทันทีจาก อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ซีอีโอกลุ่มทิสโก้ 2 แสนบาท ทำให้ระดมทุนได้สูงถึง 258,150 บาท
อักษราภัค องค์เอี่ยม หรือ เอม ผู้ประสานงานโครงการฟาร์มไข่ไก่ บอกว่า ได้มีโอกาสเข้าไปมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก พบว่า มีวิธีการช่วยเหลือตัวเองด้วยการทำเกษตร ประกอบกับส่งเสริมให้เด็กๆ ได้รับผิดชอบและดูแลตัวเองได้ เช่น มีสวนผัก แปลงสมุนไพร โรงเพาะเห็ด โรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ 1 หลัง ผลผลิตที่ได้จะนำใช้ประกอบอาหารเลี้ยงดูเด็กทั้งมูลนิธิ ส่วนที่เหลือจะนำไปขายและนำเงินที่ได้ประมาณปีละ 6 หมื่นบาท มาบริหารจัดการ
“ช่วงต้นปีที่เราระดมทุนเป็นไปอย่างช้าๆ แต่พอเกิดกระแสไอซ์บัคเก็ต ก็ทำให้คนรู้จักเว็บไซต์เทใจมากขึ้น สามารถนำไปซื้อแม่พันธุ์ไก่ไข่อีก 200 ตัว อาหารไก่ ซึ่งจะทำให้มูลนิธิมีรายได้เพิ่มอีกปีละหกหมื่นบาท”
อีกโครงการที่ประสบความสำเร็จและปิดการระดมทุนได้ ก็คือ โครงการสร้างอาชีพให้แม่หญิงใต้ที่สูญเสียสามีจากความไม่สงบ แม้ในช่วงแรกยอดการบริจาคจะนิ่งเป็นเวลาหลายเดือน แต่พอเกิดกระแสไอซ์บัคเก็ตได้ช่วยให้ยอดการสนับสนุนเพิ่มขึ้นและปิดโครงการที่ 98,770 บาท เกินจากเป้าที่ 65,000 บาท
ซีตีมาเรียม บินเย๊าะ ที่ปรึกษาโครงการ เล่าว่า จากปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ ทำให้เกิดเหตุทำร้าย ผู้นำครอบครัวเสียชีวิต หรือบาดเจ็บ ผู้หญิงเป็นม่าย เด็กกำพร้าพ่อ หลายครอบครัวมีรายได้ไม่แน่นอน ไม่พอเลี้ยงชีพ กลุ่มผู้หญิงชุมชนในปัตตานีจึงได้ชักชวนและรวมตัวก่อตั้ง “กลุ่มน้ำพริกเซากูน่า” เพื่อผลิตน้ำพริกต่างๆ รวมทั้งเมี่ยงคำสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ทำให้สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนขณะนี้
“การให้เงินช่วยเหลือ ให้แล้วหมดไป แต่การให้ความรู้ติดตัวแก่คนในชุมชน เมื่อเขาออกจากกลุ่มก็จะทำให้เขาสามารถไปสร้างอาชีพเพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองและลูกต่อไปได้”
“20 ทุนการศึกษา เพื่อสร้างอนาคตใหม่ให้น้อง” อีกหนึ่งโครงการที่มูลนิธิยุวพัฒน์ ระดมทุนที่ 140,000 บาท แต่ปิดโครงการได้รับเงินสนับสนุน 155,464 บาท ปัจจุบันเปิดโครงการเพิ่มอีก 10 ทุนการศึกษา ตั้งเป้าระดมทุนที่ 70,000 บาท และตอนนี้ระดมทุนได้แล้ว 23,908 บาท
โมนา ศิวรังสรรค์ ผู้อำนวยการมูลนิธิยุวพัฒน์ บอกว่า ในแต่ละปีมูลนิธิยุวพัฒน์จะสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาส จากเริ่มต้นเพียงปีละ 100 คน จนขณะนี้ขยายเป็นอย่างน้อยปีละ 1,000 คน โดยมูลนิธิจะคัดเลือกนักเรียนที่เหมาะสมจากทั่วประเทศเพื่อให้ทุนการศึกษาแบบต่อเนื่องและดูแลนักเรียนด้วยความเอาใจใส่
“อยากให้ทุกคนมองการช่วยเหลือทางด้านการศึกษาต่อเนื่องระยะยาวจนเด็กจบ ม. 6 ไม่ใช่ให้ครั้งเดียวจบ เพื่อช่วยส่งเด็กไปถึงฝั่ง ไม่ออกจากระบบการศึกษาไปก่อน และอยากเห็นภาพความร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือสังคมเกิดขึ้นโดยไม่ต้องรอกระแส เพราะปัญหาการขาดโอกาสทางการศึกษาต้องการความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง”
กระแสการบริจาคออนไลน์สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และสามารถเข้าถึงคนส่วนมากได้ง่าย “คนไทย” กับ “การทำบุญ” อยู่คู่กันมาอย่างยาวนาน แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สังคมพยายามรณรงค์อย่างต่อเนื่องก็คือ “ปัญหาคอร์รัปชัน” นับตั้งแต่การโกงเรื่องเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการทุจริตระดับชาติ มูลค่านับแสนล้าน
ผลสำรวจคนไทยมอนิเตอร์ปี 2555 พบว่า 5 อันดับแรกของสิ่งที่คนไทยต้องการปลูกฝังให้กับเด็กและเยาวชนมากที่สุด คือ การห่างไกลยาเสพติด การรักการเรียน การส่งเสริมเรื่องคุณธรรม...จริยธรรม...ความถูกต้อง การประหยัด และการปลูกฝังความซื่อสัตย์สุจริต
การปลูกฝังค่านิยมกับหมู่นักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ให้เป็นคนดีและคนเก่งที่มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงกิน ภายใต้โครงการ “บัณฑิตไทยไม่โกง” มีมหาวิทยาลัย 27 แห่งเป็นสมาชิก ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิด “ทางออกคอร์รัปชัน กับเยาวชนคนรุ่นใหม่” สะท้อนประเด็นน่าสนใจ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทพ.บัณฑิต จิรจริยาเวช ประธานคณะทำงานโครงการบัณฑิตไทยไม่โกง บอกว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยสมาชิก ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ยึดมั่นในคุณธรรมให้เกิดกับนักศึกษาผ่านกิจกรรมหลากหลาย ทั้งหลักสูตรการเรียนในห้องเรียนและกิจกรรมนอกห้องเรียน เช่น การสอดแทรกเนื้อหาส่งเสริมคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต การต่อต้านคอร์รัปชันเข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาพื้นฐานทั่วไปของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และเพิ่มเนื้อหาการต่อต้านคอร์รัปชันเข้มข้นขึ้นในการเรียนสาขาวิชาเฉพาะ
“มหาวิทยาลัยต้องพยายามสอนให้นักศึกษาเป็นคนดีและคนเก่งไปด้วยกันก็จะทำให้สังคมไทย เจริญรุ่งเรืองได้ ถึงเวลาแล้วที่เยาวชนต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูก อะไรคือสิ่งที่ผิด หากผิดก็ต้องไม่สนับสนุน เพราะการต่อต้านคอร์รัปชันไม่ใช่เรื่องจริยธรรมอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังให้ทุกคนมีทัศนคติความซื่อสัตย์สุจริตด้วย”
รศ.ดร.เชาวลิต ลิ้มมณีวิจิตร รองประธานคณะทำงานโครงการ เสริมว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการต่อต้านคอร์รัปชันก็คือ การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมเพื่อส่วนรวม เราทุกคนต้องไม่นิ่งดูดาย เมื่อเห็นการทำผิดก็ต้องตักเตือน ช่วยกันดูแลสิทธิเสรีภาพของคนในสังคม รู้จักการเคารพสิทธิของผู้อื่น ซึ่งหากทำได้จะเป็นจุดเปลี่ยน
ปิยะฉัตร นิกรพงษ์สิน นายกองค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่า การเกิดองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันมากมายในขณะนี้ จะช่วยทำให้เกิดรากฐานของสังคมที่แข็งแกร่งในอนาคต
ส่วนแนวทางต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ในมุมมองของปิยะฉัตร เห็นว่า สิ่งสำคัญสุดคือ หนึ่ง...ต้องเริ่มที่การปรับทัศนคติเรื่องคอร์รัปชันของคนในสังคมให้ถูกต้องเสียก่อน และสอง...เมื่อมีความคิดที่ถูกต้องได้แล้ว ก็ต้องกล้าลงมือทำด้วย
“สังคมไทยมักเป็นคนคิดดี แต่ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าพูด ดังนั้น เมื่อเห็นสิ่งที่ผิดต้องกล้าพูดออกมา โดยเริ่มต้นเลิกทุจริตจากสิ่งเล็กๆใกล้ตัวในชีวิตประจำวันก่อน ก็จะช่วยลดการคอร์รัปชันได้”
เยาวชนคนรุ่นใหม่เห็นว่าการต่อต้านคอร์รัปชันต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา เมื่อเรากล้าพูด กล้าทำในสิ่งที่ดีถูกต้อง การคอร์รัปชันในไทยก็จะหมดไป ประเทศไทยก็จะเจริญ แล้วผู้ใหญ่ล่ะ...เข้าใจตรงกันนะ.