project อื่นๆ

Documentary Club คลับหนังสารคดีที่คนไทยควรได้ดู...ถึงบ้าน

Documentary Club ก้าวต่อไป-เราจะพาหนังไปถึงบ้านคุณ ให้คุณเลือกซื้อและดูหนังสารคดีที่คุณสนใจ...เรื่องไหนก็ได้ - เวลาใดก็ได้ - ที่ไหนก็ได้ – และผ่านจอใดก็ได้ ขอให้ต่ออินเตอร์เน็ตสะดวกเท่านั้นเป็นพอ!

ระยะเวลาโครงการ 12 เดือน พื้นที่ดำเนินโครงการ ทุกจังหวัด

ยอดบริจาคขณะนี้

441,300 บาท

เป้าหมาย

449,300 บาท
ดำเนินการไปแล้ว 98%
จำนวนผู้บริจาค 107

สำเร็จแล้ว

ความคืบหน้าโครงการ

ปิดDocumentary Club : Phase II

24 กรกฎาคม 2015

            หลังจากนำพาหนังสารคดีมาฉายทางโรงภาพยนตร์ไปแล้วจำนวน 8 เรื่อง พร้อมๆ กับเริ่มต้นการระดมทุนเพื่อเตรียมตัวดำเนินงานระยะที่ 2 คือการหาช่องทางเผยแพร่หนังเหล่านี้ไปสู่ผู้ชมวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะผู้ชมที่ไม่สะดวกที่จะรับชมในโรงตามปกติ ทีมงาน Doc Club ก็ได้เรียนรู้มากขึ้นจากการหารือขอความรู้จากผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายค่ะว่า ช่องทาง VOD (วิดีโอออนดีมานด์) นั้นควรอาศัยเวลาอีกสักระยะหนึ่งเพื่อให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยีนี้ได้อย่างราบรื่นจริงๆ ดังนั้น ในเบื้องต้นนี้ เราจึงปรับเพิ่มแผนมาเป็นการผลิตและจำหน่าย DVD ด้วย เพื่อให้ผู้ชมที่สนใจสามารถมีทางเลือกได้มากขึ้นค่ะ

            นอกจากนั้น ทีมงานยังมีโครงการจัดซื้อสิทธิหนังสารคดีดีๆ ในอดีตที่ได้รับคำชม เป็นที่กล่าวขวัญถึงมานาน และยังไม่เคยมีโอกาสเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยอย่างจริงจัง เพื่อนำมาจัดทำคำบรรยายภาษาไทยและจัดฉายในรูปแบบเทศกาลหนังสารคดีด้วย ดังนั้น ในช่วงของการรอความพร้อมของ VOD นี้ เราจึงตั้งใจจะนำเงินจากการร่วมระดมทุนในเฟส 2 ของผู้สนับสนุนทุกท่านมาปลุกปั้นเทศกาลดังกล่าวให้เกิดขึ้นได้โดยมีหนังหลากหลายในระยะอันใกล้นี้ ตามรายละเอียดดังนี้ค่ะ

โครงการเทศกาลหนังสารคดีคลาสสิก

            จัดฉายหนังสารคดีชั้นดีที่ได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลก และยังไม่เคยมีโอกาสเข้าฉายอย่างจริงจังในประเทศไทยมาก่อน เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้านความบันเทิงและเนื้อหาสาระแก่ผู้ชม

            ระยะเวลา : ช่วงต้นปี 2559

            จำนวนหนัง : ประมาณ 10 เรื่อง (ทุกเรื่องจัดทำคำบรรยายภาษาไทย) *โดยเน้นหนังสารคดีที่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพทั้งในแง่เนื้อหาและการนำเสนอ / มีความหลากหลายของแนวทางและประเด็น / ในการจัดฉายบางเรื่อง จะมีการเสวนาร่วม เพื่อเปิดขอบเขตความรู้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องให้กว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งขึ้น

            สถานที่ : ในโรงภาพยนตร์ กรุงเทพมหานคร / เชียงใหม่ / และจังหวัดใหญ่อื่นๆ *โดยการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาที่สนใจ ในการจัดฉายนอกโรงภาพยนตร์ในบางพื้นที่ด้วย เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงหนังได้ง่ายยิ่งขึ้น

            งบประมาณ :

-        ค่าสิทธิภาพยนตร์ เฉลี่ยเรื่องละ 50,000 บาท (ทั้งหนังที่ซื้อสิทธิครอบคลุมการเผยแพร่ในลักษณะอื่นหลังเทศกาล เช่น DVD และหนังที่เช่าสิทธิมาเพื่อการฉายในเทศกาลเท่านั้น)

-        ค่าจัดทำคำบรรยายภาษาไทย เฉลี่ยเรื่องละ 20,000 บาท

-        ค่าดำเนินการอื่นๆ (ประชาสัมพันธ์, จัดเสวนา, ขนส่ง, ส่งพิจารณาเรตติง, วัสดุ ฯลฯ) ประมาณ 50,000 บาท

            ทีมงาน Doc Club ขอขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณามอบทั้งทุนทรัพย์และกำลังใจให้แก่เราอย่างอบอุ่นมาโดยตลอด เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งต่างๆ ที่เราได้ลงมือทำไปแล้วและที่กำลังจะทำต่อไปจะสามารถเป็นประโยชน์ได้ตามที่ท่านคาดหวังไว้ หากมีข้อแนะนำติชมใดๆ กรุณาติดต่อชี้แนะเราได้ทันทีเลยนะคะ ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ

 

ด้วยมิตรภาพ

ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

ผู้ก่อตั้งและผู้ดำเนินงาน Documentary Club

อ่านต่อ »
ดูความคืบหน้าโครงการทั้งหมด

ที่มา/ความสำคัญโครงการ :

หลังจาก Documentary Club ได้รับแรงสนับสนุนจากเพื่อนๆ อย่างอบอุ่น จนสามารถระดมทุนผ่านเฟสแรกและซื้อสิทธิหนังสารคดีดีๆ เข้าฉายในโรงบ้านเราไปแล้ว 4 เรื่อง (Finding Vivian Maier, The Case Against 8, The Circle, Life Itself) ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างคึกคักมาตลอด 4 เดือนนั้น 
บัดนี้ Documentary Club ขอสานต่อเส้นทางเดินให้กระเถิบเข้าใกล้เป้าหมายขึ้นอีกขั้น ด้วยการเตรียมพาหนังสารคดีคุณภาพจากทั่วโลกไปให้ถึงคนรักหนังสารคดีทั่วประเทศไทยมากขึ้น โดยนอกเหนือจากการเข้าฉายในโรงตามโปรแกรมปกติแล้ว เรายังจะก้าวออกไปให้ไกลยิ่งกว่านั้น ให้พ้นจากข้อจำกัดทั้งในด้านพื้นที่ (ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไปแม้บ้านคุณจะไม่ใกล้โรงหนังเลย) และเวลา (ไม่สำคัญอีกต่อไปที่คุณจะต้องจัดตารางชีวิตให้ว่างในโมงยามตรงกับโปรแกรมของโรง) ...แล้วเข้าให้ถึงจอในบ้านของคุณด้วยการเป็น ‘Doc on Demand’ ซึ่งคุณจะสามารถคลิกบนเว็บไซต์เราเพื่อเลือกซื้อและดูหนังสารคดีที่คุณสนใจ...เรื่องไหนก็ได้ - เวลาใดก็ได้ - ที่ไหนก็ได้ – และผ่านจอใดก็ได้ ขอให้ต่ออินเตอร์เน็ตสะดวกเท่านั้นเป็นพอ!
 
‘Doc on Demand’ จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
สิงหาคม 2558 นี้
 
จะใช้งบทำอะไร
1) จัดทำระบบ VOD ที่ใช้งานสะดวกสบาย 
2) ซื้อสิทธิหนังสารคดีดีๆ ทั้งเรื่องใหม่ๆ ที่น่าดู และหนังสารคดีคลาสสิกที่เราเฝ้ารอมานานเหลือเกินที่จะได้ดู...แบบคมชัด หลากหลาย และมีบรรยายไทย
 
บางส่วนของหนังสารคดีดีๆ ที่คุณจะได้พบใน ‘Doc on Demand’
 
 
The Times of Harvey Milk (1984)
หลายคนรู้จัก ‘ฮาร์วีย์ มิลค์’ จากการสวมบทบาทขั้นเทพของ ฌอน เพนน์ ใน Milk ...แต่ถ้าคุณได้เห็นตัวจริงของมิลค์ คุณจะรู้ว่าเขามีเสน่ห์เหนือกว่าเพนน์ซะอีก! นี่คือเรื่องราวการต่อสู้สุดเร้าใจของผู้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นเป็นสมาชิกสภาคนแรกของซานฟรานซิสโกที่เป็นเกย์ ก่อนที่เขาจะถูกเพื่อนร่วมงานบุกสังหารอย่างโหดร้าย (หนังคว้ารางวัลออสการ์สาขาสารคดียอดเยี่ยม)
 
 
Enron: The Smartest Guys in the Room (2005)
จากบริษัทร่ำรวยอันดับ 7 ของโลก อะไรทำให้บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่อย่างเอนรอนกลับกลายล้มละลายภายในปีเดียว? สารคดีสะเทือนโลกเรื่องนี้พาเราไปตื่นตะลึงกับทุกแง่มุมเบื้องหลังความฉ้อฉลระดับมหากาพย์ของแวดวงธุรกิจ การเมือง และนโยบายรัฐอันน่าสะพรึง (หนังชนะรางวัลสารคดียอดเยี่ยม Independent Spirit Awards และเข้าชิงรางวัลออสการ์)
 
 
5 Broken Cameras (2011)
สารคดีทรงพลังที่ชาวบ้านธรรมดาๆ คนหนึ่งคว้ากล้องขึ้นบันทึกความเปลี่ยนแปลงของปาเลสไตน์ ควบคู่ไปกับการเติบโตขึ้นทุกปีของลูกชายตัวน้อย กล้องตัวแล้วตัวเล่าของเขาทำให้เราได้เห็นเรื่องราวแสนสะเทือนใจของผู้คนที่ถูกความขัดแย้งทางการเมืองกัดเซาะจนทุกอย่างภินท์พัง (หนังชนะรางวัล World Cinema – Documentary กำกับยอดเยี่ยมจากซันแดนซ์ และเข้าชิงออสการ์สาขาสารคดียอดเยี่ยม)
 
 
Steve Jobs: The Lost Interview (2012)
เป็นที่รู้กันว่า สตีฟ จ็อบส์ ไม่ชอบให้สัมภาษณ์ ...แต่ย้อนไปเมื่อครั้งลาออกจาก Apple มาก่อตั้งบริษัท NeXT เป็นของตัวเอง เขาเคยปรากฏตัวในคลิปสัมภาษณ์ยาวกว่าหนึ่งชั่วโมงคลิปนี้ที่ชาวโลกเข้าใจผิดมานานว่าสูญหายไปแล้ว กระทั่งมันถูกค้นพบอีกครั้งและถูกนำมาเผยแพร่ใหม่...โดยไม่มีการตัดทอนเลย! นั่นแปลว่าเราจะได้ฟังบุรุษอัจฉริยะของโลกคนนี้ปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์อันเหนือธรรมดาผ่านปากคำของเขาเองที่หาฟังจากไหนไม่ได้อีกแล้ว 70 นาทีเต็ม!

สมาชิกภายในทีม :

Documentary Club เป็นหนึ่งในกิจกรรมของกลุ่ม Movies Matter ดำเนินการโดย สุภาพ หริมเทพาธิป และ ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ 

Documentary Club คลับหนังสารคดีที่คนไทยควรได้ดู

30 สิงหาคม 2014

"เราต่างรู้กันว่าหนังสารคดีที่ดีนั้นทรงพลังถึงขั้นเขย่าหัวใจเรา เปลี่ยนเราเป็นคนใหม่ ทำให้โลกทั้งใบต้องสั่นสะเทือนในแบบที่กระทั่งหนังบล็อคบัสเตอร์ก็ยังมิอาจลอกเลียนได้
 
เราได้ยินข่าวคราวหนังเหล่านี้ เราติดตามความเคลื่อนไหวของหนังเหล่านี้ เราได้เห็นตัวอย่างสุดเร้าใจของหนังเหล่านี้ เราอยากดูหนังเหล่านี้ ...และหลังจากเฝ้ารอมานานหลายปีให้มีค่ายผู้จัดจำหน่ายหนังหรือสถานีทีวีหาซื้อหนังเหล่านี้มาฉาย บัดนี้เราก็ตัดสินใจว่าหมดเวลาแล้วสำหรับการรอ และถึงเวลาแล้วที่เราจะเขียนคำว่า ‘Coming soon’ ให้แก่หนังสารคดีที่เราอยากดูด้วยตัวเราเอง!"
 
- โครงการ Documentary Club
https://taejai.com/projects/9315
 
....และด้วยการร่วมใจระดมทุนจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จนครบ 1 แสนบาทแรก "Documentary Club" ก็มีโอกาสได้เริ่มต้นเขียนคำว่า 'coming soon' ตัวใหญ่ๆ แล้วค่ะ การซื้อสิทธิเริ่มต้นขึ้นแล้วและหนังกำลังเริ่มทยอยเดินทางมาเพื่อขึ้นฉายในโรงบ้านเรา!

Documentary Club #1 & 2: สารคดี 2 เรื่องแรกใน 7 เรื่องที่เราจะได้ดูด้วยกัน!

10 กันยายน 2014

 
โรเจอร์ อีเบิร์ต ...เขาเป็นนักวิจารณ์หนังที่คนค่อนโลกรู้จักและคุ้นหน้า
วิเวียน ไมเออร์ ...เธอเป็นตากล้องหญิงสมัครเล่นที่ไม่เคยมีใครได้ยินชื่อ
 
แต่แม้คนหนึ่งจะลาจากโลกไปท่ามกลางความอาลัยอาวรณ์ยิ่งใหญ่ และอีกคนลาจากโลกไปอย่างเงียบเชียบเปลี่ยวเปล่า ทว่า เรื่องราวของพวกเขาล้วนบอกเล่าถึงมนุษย์ผู้อุทิศทั้งหัวใจให้แก่สิ่งที่ "รัก" และความทุ่มเทอย่างหมดใจต่องานศิลปะอันเป็นที่รักนั้นเอง ที่กำหนดนิยามความหมายแท้จริงให้แก่ "ชีวิต" ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยมีอยู่
 
เราดู Life Itself กับ Finding Vivian Maier แล้ว และมันทั้งสนุก น่ารัก จับใจ ให้ความรู้สึกท่วมท้น จนเราขอเลือกมาเป็นหนัง 2 เรื่องแรกของโครงการนี้ที่จะเข้าฉาย...อีกไม่นานเกินรอ!
 
 
>> ร่วมระดมทุนสนับสนุนโครงการ Documentary Club เฟ้นหาและจัดฉายหนังสารคดีดีๆ ของโลก ได้ที่...

Documentary Club เริ่มจัดส่งบัตรเชิญการฉายหนังเรื่องแรก

22 ตุลาคม 2014

สวัสดีค่ะท่านผู้ร่วมระดมทุนโครงการ Documentary Club ทุกท่าน
 
ตลอดเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมาหลังจากเริ่มเปิดโครงการ ทีมงาน Documentary Club ได้รับการตอบรับและความสนับสนุนจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อย่างอบอุ่น ซึ่งเราขอขอบคุณอย่างจริงใจเลยนะคะ เราได้ใช้เวลาช่วงที่ผ่านมาและเงินสนับสนุนเบื้องต้นที่ได้รับไปกับการจัดซื้อสิทธิและจัดทำคำบรรยายภาษาไทยของหนังสารคดี
จำนวนหนึ่ง รวมทั้งดำเนินการติดต่อเรื่องสถานที่ฉายอย่างมีความคืบหน้าน่าพอใจ คาดว่าเราน่าจะได้ประกาศรายละเอียดการเริ่มฉายหนังเรื่องแรกของโครงการกันในไม่กี่วันข้างหน้านี้ค่ะ ^^
 
และในช่วงสัปดาห์นี้ ทางทีมงาน Documentary Club จะเริ่มต้นส่งจดหมายขอบคุณ บัตรสมาชิก บัตรดูหนังในโครงการ และบัตรเชิญรอบแรก ให้แก่ท่านผู้ร่วมระดมทุนแล้วค่ะ หากท่านมีความประสงค์จะรับน้ำใจตอบแทนจากโครงการ แต่เมื่อตอนบริจาคเงินยังไม่ได้แจ้งชื่อนามสกุลจริงและที่อยู่ที่สะดวกสำหรับการติดต่อไว้กับเว็บไซต์ "เทใจ" ขอความกรุณาช่วยแจ้งข้อมูลกลับมาทางอีเมล์ documentaryclubthai@gmail.com ภายในวันจันทร์ที่ 27 ต.ค.นี้ด้วยนะคะ เพื่อให้ท่านได้รับของตอบแทนทันเวลาสำหรับการร่วมชมหนังเรื่องแรกของเราด้วยกัน ขอบคุณมากๆ อีกครั้งค่ะ
 
ด้วยมิตรภาพ
ธิดา ผลิตผลการพิมพ์
Documentary Club

คลี่ปริศนาภาพถ่ายวิเวียน ไมเออร์ รอบพิเศษ 30 พ.ย. ที่SF World Cinema Central World

28 ตุลาคม 2014

ปี 2007 ...ชายหนุ่มชื่อ จอห์น มาลูฟ ประมูลกล่องฟิล์มเนกาทีฟมาหนึ่งกล่อง หวังจะเจอภาพเก่าๆ ที่เอามาใช้ประกอบหนังสือประวัติศาสตร์ที่เขากำลังเขียนอยู่ได้ มาลูฟไม่เจอภาพที่ต้องการ แต่สิ่งที่เขาเจอคือรูปภาพจำนวนมหาศาลจากช่วงยุค 50 ที่ผู้หญิงคนหนึ่งถ่ายทิ้งเอาไว้ - - ผู้หญิงที่ทุกวันนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ช่างภาพสตรีทผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ได้รับการค้นพบในศตวรรษที่ 21"
 
ขุมคลังลี้ลับอันน่าตื่นตะลึงนั่นเองที่ทำให้มาลูฟตัดสินใจตะลุยทำหนังเรื่องนี้อย่างบ้าคลั่ง เพราะเขาอยากรู้เป็นที่สุดว่า อะไรกันทำให้ผู้หญิงชื่อ วิเวียน ไมเออร์ คนนี้ถ่ายรูปไว้เป็นแสนๆ ภาพ...แล้วเก็บเข้ากล่อง ใส่ล็อค ปิดห้อง ไม่ยอมให้ใครดู!? และทำไมเธอต้องซ่อนตัวตนอันแท้จริงในฐานะตากล้องหญิงฝีมือฉกาจเอาไว้ภายใต้คราบของการทำงานประจำไปวันๆ...ในฐานะพี่เลี้ยงเด็ก!?
 
SF World Cinema ร่วมกับ Street Photo Thailand และ Documentary Club ภูมิใจเสนอ "Finding Vivian Maier - คลี่ปริศนาภาพถ่ายวิเวียน ไมเออร์" หนังสารคดีสุดสนุกที่สร้างความฮือฮามาแล้วทั่วโลก กับการฉายครั้งแรกในประเทศไทย!
 
ณ โรงภาพยนตร์ : SF World Cinema Central World
รอบพิเศษ : 30 พ.ย.นี้ ดูหนังก่อนใคร + สนทนาเข้มข้นถึงเสน่ห์ของภาพถ่ายสตรีทและผลงานของวิเวียน ไมเออร์ (เริ่ม 18.30 น.)
รอบปกติ : ศุกร์-อาทิตย์ที่ 5-6-7 ธ.ค. 57 (รอบ 17.00 น.)
สามารถจอง-ซื้อบัตรล่วงหน้าตั้งแต่ 15 พ.ย. ได้ที่  Application “SF Showtime in Hand”

กว่าจะเป็น Finding Vivian Maier และความคืบหน้าโครงการ

17 พฤศจิกายน 2014

ใกล้แล้ว! 
 
และแล้วหนังเรื่องแรกของ Documentary Club คือ Finding Vivian Maier ก็ได้ฤกษ์เตรียมเข้าฉายแล้วโดยเริ่มรอบพิเศษในวันที่ 30 พ.ย.นี้ (กิจกรรมเริ่ม 18.30 น.) และรอบปกติ 5-6-7 ธ.ค. (17.00 น.) ที่ SF World Cinema Central World 
 
ในการนี้ Documentary Club และ taejai.com ต้องขอบคุณทุกท่านอย่างยิ่งอีกครั้งค่ะ และเราขออนุญาตแจ้งว่า เนื่องจากตอนนี้เราได้จัดทำคลิปขอบคุณพร้อมรายชื่อผู้สนับสนุนโครงการของเราเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว เพื่อใช้ฉายก่อนหนัง Finding Vivian Maier
 
ดังนั้น สำหรับท่านที่กรุณาร่วมระดมทุนแก่เราตั้งแต่หลังวันที่ 5 พ.ย. เป็นต้น เราจะขอนำชื่อของท่านไปขึ้นขอบคุณในคลิปขอบคุณชิ้นถัดไป (ซึ่งจะขึ้นก่อนการฉายหนังเรื่องที่ 2 คือ The Case Against 8 วันที่ 15 ธ.ค.นี้) นะคะ
 
ขอบพระคุณทุกท่านมากค่ะ
 
นอกจากนี้ทีมงาน Documentary Club ขอแจ้งอีกว่า แม้เป้าหมายหลักของ Documentary Club จะคือการนำหนังสารคดีที่น่าสนใจมาจัดฉาย แต่เราไม่ได้แค่อยากฉายหนังแล้วจบกันไป เรายังจัดกิจกรรมร่วมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสวนา ปาร์ตี้ ฯลฯ และอีกสิ่งที่เราอยากทำก็คือ หนังสือเล่มเล็กๆ ที่ผู้สนใจจะสามารถเปิดอ่านเพื่อรู้จักหนังเรื่องนั้นๆ อย่างหลากหลายขึ้น ลึกซึ้งขึ้น หรือสนุกขึ้นได้
 
กระนั้นก็ดี หนังสารคดีเนี่ย จะดูให้สนุกถึงใจตื่นเต้นจริงๆ ก็เมื่อเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหนังหรือบุคคลในหนังมากจนเกินไป ดังนั้น เราจึงมีแผนจะทำหนังสือหน้าตาแบบนี้ค่ะ โดยช่วงก่อนหนังฉายก็จะเป็นข้อมูลพื้นฐานเล็กน้อย สำหรับประกอบการดูหนังพอให้ได้อรรถรส และหลังจากหนังฉายไปแล้ว เราจึงจะมาเป็น pdf เต็มเล่ม (ราว 8 หน้า) ซึ่งเล่าที่มาที่ไปและอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับหนังเรื่องนั้น สำหรับให้ท่านที่สนใจดาวน์โหลดไปอ่านเล่นได้ที่นี
 
 

Documentary Club เพส1สำเร็จแล้ว เตรียมเปิดเพส 2 กุมภาพันธ์นี้

16 มกราคม 2015

400,000 บาทแล้วจ้า!!
 
Documentary Club ขอกราบขอบพระคุณพี่ๆน้องๆทุกๆท่านที่สนับสนุนโครงการระดมทุนเพื่อเฟ้นหาหนังสารคดีดีๆ จากทั่วโลกมาฉายแก่ผู้ชมในประเทศไทยของเรา บนเว็บไซต์ "เทใจ" จนล่าสุดสดๆ ร้อนๆ วันนี้เราสามารถเดินมาถึงเป้าของเฟสที่ 1 ได้สำเร็จแล้วค่ะ ^O^
 
ระยะเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์นับจากนี้ เราจะปิดรับการบริจาคชั่วคราว เพื่อเตรียมพร้อมรายละเอียดสำหรับการทำงานและการขอระดมทุนขั้นต่อไป...โดยในเฟสที่ 2 Documentary Club วางเป้าหมายให้ตัวเองกระเถิบขึ้นไปอีกขั้น คือเราจะนำพาหนังสารคดีดีๆ ไป "เข้าถึง" ผู้ชมทั่วประเทศให้ได้ค่ะ!
 
โปรดติดตามก้าวต่อไปของโครงการ Documentary Club กุมภาพันธ์นี้นะคะ ^O^
 
 
อนึ่ง! สำหรับหนังที่ฉายในเพสแรกมีด้วยกันถึง 4 เรื่อง
 
 
 
ข้อมูล Documentary Club คลับหนังสารคดีที่คนไทยควรได้ดู (เพสแรก)
..Life Itself : สารคดีบันทึกชีวิตช่วงสุดท้ายของ โรเจอร์ อีเบิร์ต นักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อก้อง ที่เรียกน้ำตาผู้ชมมาแล้วในหลายเทศกาลหนังด้วยเรื่องราวแห่งความรักและพลังของ ‘ภาพยนตร์’
 
...Rich Hill : สารคดีถ่ายทอดเรื่องราวของ 3 เด็กหนุ่มที่ต้องดิ้นรนดำเนินชีวิตท่ามกลางความยากจน ตึกปรักหักพังและความร้างไร้ของเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่ก็เหมือนความฝันของพวกเขาที่มีแต่จะ สูญสลายลงช้าๆ ...ทว่าเมื่อเป็นวัยรุ่น ต่อให้อยู่ในความสิ้นหวังเพียงใด พวกเขาก็มีสิทธิจะใฝ่ฝันถึงชีวิตที่ดีกว่า (หนังชนะรางวัล U.S. Grand Jury Prize เทศกาลหนังซันแดนซ์ 2014 และ Special Jury Prize สาขากำกับ จาก Sarasota Film Festival 2014)
 
...The Case Against 8 : สารคดีโด่งดังที่เล่ากระบวนการต่อสู้ของทีมทนายซึ่งช่วยกันโค่นล้มกฎหมายห้ามคนรักเพศเดียวกันจดทะเบียนสมรสในแคลิฟอร์เนีย ....สิ่งที่น่าทึ่งและทำให้น้ำตาไหลตั้งแต่ไม่กี่นาทีแรกก็คือ ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากการร่วมมือของทนายหลักสองคน คนหนึ่งเป็นมือขวาพรรครีพับลิกัน อีกคนเคยทำงานให้เดโมแครต หรือพูดง่ายๆว่า พวกเขายอมทิ้งความแตกต่างทางการเมืองไว้เบื้องหลัง แล้วมาจับมือกันทำคดีนี้จนประสบชัยชนะ ด้วยความเชื่อว่า "การแต่งงาน" เป็นสิทธิที่พึงได้ของคู่รักทุกคู่ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในเพศใด (ชนะรางวัลสาขากำกับยอดเยี่ยม จากเทศกาลหนังซันแดนซ์ 2014, รางวัล Audience Award จาก SXSW Film Festival 2014 และ RiverRun International Film Festival 2014)
 
...Finding Vivian Maier : ผู้กำกับสารคดีเรื่องนี้ประมูลกล่องใส่ฟิล์มกับภาพเก่าๆ มาได้หนึ่งใบ และต้องตะลึงงันเมื่อในนั้นเต็มไปด้วยภาพถ่ายทิวทัศน์เมืองงดงามสุดอลัง น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือมันเป็นฝีมือของตากล้องนิรนามไร้คนสนใจ และเมื่อเขาอยากรู้จนออกสืบหาว่าเธอเป็นใคร คำตอบที่ได้รับก็สุดแสนน่าประทับใจและเป็นอีกครั้งที่โลกบอกเราว่า ความเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่อาจซุกซ่อนอยู่ในกายของคนธรรมดาๆ เกินกว่าเราจะคาดถึง (คว้ารางวัล Grand Jury Prize จาก Miami Film Festival 2014)
 
...Return to Homs : สารคดีเข้มข้นกระชากหัวใจ เรื่องของเด็กหนุ่มเปี่ยมเสน่ห์ผู้รักษาประตูฟุตบอลวัย 19 ปีแห่งทีมชาติซีเรีย ผู้ก็ผันตัวมาเป็นหนึ่งในผู้นำประท้วงที่ใช้บทเพลงเป็นทั้งเครื่องประโลมจิตใจชาวบ้านและสะท้อนความฝันถึงสันติภาพ ทว่าหลังจากเมืองฮอมส์บ้านเกิดของเขาถูกโจมตี เขากับเพื่อนแอ็กติวิสต์นักทำหนังวัย 24 ก็ตัดสินใจจับอาวุธขึ้นต่อสู้ ซึ่งแน่นอนว่าผลของมันมิได้สดสวยงดงาม (หนังคว้ารางวัล World Cinema Grand Jury Prize เทศกาลหนังซันแดนซ์ 2014, Charles E. Guggenheim Emerging Artist Award จาก Full Frame Documentary Film Festival 2014 และ Grand Prix du Festival จาก FIFDH 2014)
 
...Fed Up : ใครๆ ก็รู้ว่าอาหารทุกวันนี้มีแต่สารอันตราย ใครๆ ก็หันมาห่วงใยใส่ใจสุขภาพ แต่ทำไมโรคอ้วนยังเป็นโรคที่คุกคามทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในหลายประเทศ? สิ่งที่สารคดีเรื่องนี้ทำคือชำแหละอุตสาหกรรมอาหารอย่างไม่ไว้หน้าโดยเฉพาะสารสีขาวเม็ดเล็กจ้อยที่เราต่างเสพติดทั้งที่รู้แก่ใจว่าพิษของมันเหลือร้ายอย่าง “น้ำตาล” (เข้าชิง Grand Jury Prize เทศกาลหนังซันแดนซ์ 2014)
 
...Manakamana : หนังสารคดีที่ใช้ฟิล์ม 16 มม. ทั้งหมด 400 ม้วน ตั้งถ่ายผู้คนหลากวัยหลายสัญชาติมากมายการแสดงออก ที่ถูกโชคชะตาชักพาให้มานั่งข้างกันในระยะเวลาสั้นๆ บนกระเช้าที่มุ่งสู่วัดบนยอดเขา Manakamana ในเนปาล ผลงานของ Harvard’s Sensory Ethnology Lab ที่ประกอบด้วยฟุตเตจทีละเทคต่อกันไปเรื่อยๆ แต่น่าสนใจเหลือเกินว่าทำไมใครๆ ถึงบอกว่ามัน “สนุก”?! (คว้ารางวัล Golden Leopard - Filmmakers of the Present และ Best First Feature - Special Mention จาก Locarno International Film Festival 2013, รางวัล Best Female-Directed Documentary จาก Edinburgh International Film Festival 2014 และเข้าชิงรางวัลสารคดียอดเยี่ยม Independent Spirit Awards 2014)
 
...The Notorious Mr. Bout : สารคดีที่เล่า ‘อีกด้าน’ ของชีวิต วิคเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธสงครามที่เคยอื้อฉาวเขย่าโลกหลังจากโดนจับตัวได้ในประเทศไทยเมื่อ 4 ปีก่อน ...จะเป็นยังไงถ้าบูทประกาศว่าเขาก็อาจกลายเป็นคนทำหนังสารคดีมือทองได้ ด้วยการจับกล้องมาถ่ายตัวเอง(ซึ่งไม่ได้ออกมาดูคล้ายอาชญากรวายร้ายอย่างที่เราเคยคิดตรงไหนเลย)ส่งฟุตเตจมาให้หนัง (ที่ทั้งไม่ประนามและไม่เข้าข้างเขาสักนิด) เรื่องนี้ได้ใช้! (เข้าชิงรางวัล Grand Jury Prize สาขา World Cinema - Documentary เทศกาลหนังซันแดนซ์ปี 2014) ...เหล่านี้เป็นแค่หนึ่งในส่วนเสี้ยวของ ‘หนังสารคดี’ ที่ได้รับคำยกย่องว่า ‘ต้องไม่พลาด’ ของช่วงปีที่ผ่านมา ไม่เพียงเพราะมันบันทึก บอกเล่า ชวนคุย ขุดคุ้ย ตีแผ่ สารพัดเรื่องราวของผู้คนที่มีตัวตนอยู่จริงให้เราต้องทึ่งในความอัศจรรย์พันลึกของมนุษย์เท่านั้น แต่มันยังล้วนเป็นหนังที่พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามีพร้อมทั้งความสนุกสนาน และความตื่นเต้นน่าตะลึงงัน
 
 
 
 
...เหล่านี้เป็นแค่หนึ่งในส่วนเสี้ยวของ ‘หนังสารคดี’ ที่ได้รับคำยกย่องว่า ‘ต้องไม่พลาด’ ของปี 2014 ไม่เพียงเพราะมันบันทึก บอกเล่า ชวนคุย ขุดคุ้ย ตีแผ่ สารพัดเรื่องราวของผู้คนที่มีตัวตนอยู่จริงให้เราต้องทึ่งในความอัศจรรย์พันลึกของมนุษย์เท่านั้น แต่มันยังล้วนเป็นหนังที่พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามีพร้อมทั้งความสนุกสนาน และความตื่นเต้นน่าตะลึงงัน
เราต่างรู้กันว่าหนังสารคดีที่ดีนั้นทรงพลังถึงขั้นเขย่าหัวใจเรา เปลี่ยนเราเป็นคนใหม่ ทำให้โลกทั้งใบต้องสั่นสะเทือนในแบบที่กระทั่งหนังบล็อคบัสเตอร์ก็ยังมิอาจลอกเลียนได้
เราได้ยินข่าวคราวหนังเหล่านี้ เราติดตามความเคลื่อนไหวของหนังเหล่านี้ เราได้เห็นตัวอย่างสุดเร้าใจของหนังเหล่านี้ เราอยากดูหนังเหล่านี้ ...และหลังจากเฝ้ารอมานานหลายปีให้มีค่ายผู้จัดจำหน่ายหนังหรือสถานีทีวีหาซื้อหนังเหล่านี้มาฉาย บัดนี้เราก็ตัดสินใจว่าหมดเวลาแล้วสำหรับการรอ และถึงเวลาแล้วที่เราจะเขียนคำว่า ‘Coming soon’ ให้แก่หนังสารคดีที่เราอยากดูด้วยตัวเราเอง!
 
Documentary Club เป็นโครงการที่กำลังจะกลายเป็นความจริงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เราจะเฟ้นหาและซื้อสิทธิหนังสารคดีที่ดีและที่น่าดูจากทั่วโลกมาจัดฉาย เราจะแปลภาษาต้นฉบับ ทำซับไตเติลภาษาไทย เราจะพามันออกพ้นปริมณฑลเล็กๆ แคบๆ ที่มันเคยอยู่ ด้วยการไปหาคนดูถึงในโรงเล็กใหญ่และในสถานที่ที่มีคนอยากให้มันไป และจะไม่แค่ฉาย แต่เราจะตั้งวงพูดคุย ชักชวนคนที่น่าสนใจมาแลกเปลี่ยนบทสนทนา ไม่จำกัดว่าจะเป็นเรื่องราวของภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะ วัฒนธรรม สังคม การเมือง ฯลฯ ตามแต่เส้นทางที่หนังเรื่องนั้นพาไปและตามแต่ความกระหายใคร่รู้ของผู้ชม
 
Documentary Club เริ่มต้นก้าวแรกของตนเองแล้ว หนังดีเรื่องแรกที่เราซื้อสิทธิมาด้วยทุนของเราเองและเตรียมฉายคือ The Circle สารคดีงานสร้างอลังการสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของครูหนุ่มกับนักร้องหนุ่มผู้ฟันฝ่าร่วมกันผ่านช่วงเวลาโหดร้ายของสังคมเยอรมันทศวรรษ 1950 ที่ความรักเพศเดียวกันกลายเป็นรักต้องห้าม หนังเปี่ยมด้วยความรู้สึก น่าประทับใจ และงดงาม จนกลายเป็นเจ้าของรางวัล Panorama Audience Award กับ Teddy Award จากเทศกาลหนังเบอร์ลิน และรางวัล Best Feature Film จาก Torino International Gay & Lesbian Film Festival ปีนี้เรียบร้อยแล้ว
 
ติดตามความคืบหน้าได้ที่เพจของ Movies Matter ได้ที่ https://www.facebook.com/moviedomatter
 "Documentary Club มีเป้าหมายจะฉายหนังสารคดีชั้นดีที่ทั้งสนุกสนาน ทรงพลัง และหลากหลาย เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำหนดระยะเวลาทดลองเบื้องต้น 1 ปี
จัดฉายหนังสารคดีต่างประเทศ พร้อมคำบรรยายไทย (ทั้งแบบฟรีและเก็บค่าเข้าชม) รวม 7 เรื่อง เราจะเฟ้นจากบางส่วนของหนังสารคดีตามรายชื่อข้างต้น และหนังสารคดีดี ๆเรื่องอื่น ๆ ที่กำลังโดดเด่นทั่วโลก ทั้งในโรงภาพยนตร์และสถานที่ที่น่าสนใจ (ต่างจังหวัดเราก็จะไป) สำหรับผู้ชมทุกคนที่รักหนังสารคดี
 
เราอยากที่จะจัดฉายรอบพิเศษ พร้อมกิจกรรมพิเศษ ในหัวข้อพิเศษๆ สำหรับผู้ชมกลุ่มพิเศษที่เหมาะกับหนังเรื่องนั้นๆ เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเพื่อความบันเทิง เพื่อการศึกษา เพื่อการรณรงค์
 
งบประมาณที่จะทำให้การทดลองนี้เกิดขึ้นจริงได้ : 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท)
 
ทำไมต้องใช้งบถึงขนาดนั้น?
 
เหตุผลข้อหนึ่งที่ทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากนำหนังสารคดีมาฉายอย่างจริงๆ จังๆ ในบ้านเรา ก็เพราะ “โอกาสในการทำกำไรมีน้อย” เนื่องจากกลุ่มผู้ชมไม่กว้างขวางเท่าหนังตลาด/หนังเล่าเรื่องทั่วไป ขณะที่ต้นทุนในการซื้อหามาฉายแม้จะไม่แพงเท่าหนังตลาด แต่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ถือว่าไม่น้อย
ค่าสิทธิในการนำมาฉายในที่สาธารณะแบบเก็บค่าเข้าชม  เฉลี่ยเรื่องละ 100,000 บาท โดยประมาณ
ค่าแปลและทำคำบรรยายภาษาไทย  20,000 บาท
ค่าจัดการอื่นๆ (เช่น การส่งพิจารณาเรตติ้ง) 20,000 บาท
ส่วนแบ่งกับโรงฉาย 50% ของรายได้
(ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เราสามารถจัดการอย่างประหยัดได้ตามกำลัง เช่น ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์)
อย่างไรก็ดี การระดมทุนเบื้องต้น 1 ล้านบาท สำหรับหนัง 7 เรื่อง (เฉลี่ยเรื่องละ 100,000 กว่าบาท) คือวิธีที่จะช่วยเปิดประตูบานแรกให้โครงการนี้สามารถข้ามผ่านแรงกดดันทางธุรกิจและเกิดขึ้นได้ ...และโดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลารอนานเพื่อให้มันครบตามเป้า
 
 เพราะครบ 1 แสนบาท เราจะจัดฉายหนังในโครงการ 1 เรื่องทันที!
 
และเมื่อครบ 500,000 บาท เราจะจัดฉายอีก 2 เรื่องทันที!
 
และเมื่อครบ 1ล้านบาทเราจะจัดฉายให้ครบ 7 เรื่อง
 
แผนงานของเรามีอยู่ว่า ภายในระยะเวลา 1 ปีแรกนี้ เราจะวางแผนการบริหารจัดการต้นทุนและรายได้จากการเก็บค่าเข้าชมและอื่นๆ ของหนังแต่ละเรื่อง เพื่อให้ Documentary Club สามารถดำเนินการด้วยตนเองต่อไปได้อย่างราบรื่น และยั่งยืนในปีถัดๆ ไป โดยพึ่งพิงการระดมทุนเพิ่มเติมน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
 
 

ปิดDocumentary Club : Phase II

24 กรกฎาคม 2015

            หลังจากนำพาหนังสารคดีมาฉายทางโรงภาพยนตร์ไปแล้วจำนวน 8 เรื่อง พร้อมๆ กับเริ่มต้นการระดมทุนเพื่อเตรียมตัวดำเนินงานระยะที่ 2 คือการหาช่องทางเผยแพร่หนังเหล่านี้ไปสู่ผู้ชมวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะผู้ชมที่ไม่สะดวกที่จะรับชมในโรงตามปกติ ทีมงาน Doc Club ก็ได้เรียนรู้มากขึ้นจากการหารือขอความรู้จากผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายค่ะว่า ช่องทาง VOD (วิดีโอออนดีมานด์) นั้นควรอาศัยเวลาอีกสักระยะหนึ่งเพื่อให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยีนี้ได้อย่างราบรื่นจริงๆ ดังนั้น ในเบื้องต้นนี้ เราจึงปรับเพิ่มแผนมาเป็นการผลิตและจำหน่าย DVD ด้วย เพื่อให้ผู้ชมที่สนใจสามารถมีทางเลือกได้มากขึ้นค่ะ

            นอกจากนั้น ทีมงานยังมีโครงการจัดซื้อสิทธิหนังสารคดีดีๆ ในอดีตที่ได้รับคำชม เป็นที่กล่าวขวัญถึงมานาน และยังไม่เคยมีโอกาสเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยอย่างจริงจัง เพื่อนำมาจัดทำคำบรรยายภาษาไทยและจัดฉายในรูปแบบเทศกาลหนังสารคดีด้วย ดังนั้น ในช่วงของการรอความพร้อมของ VOD นี้ เราจึงตั้งใจจะนำเงินจากการร่วมระดมทุนในเฟส 2 ของผู้สนับสนุนทุกท่านมาปลุกปั้นเทศกาลดังกล่าวให้เกิดขึ้นได้โดยมีหนังหลากหลายในระยะอันใกล้นี้ ตามรายละเอียดดังนี้ค่ะ

โครงการเทศกาลหนังสารคดีคลาสสิก

            จัดฉายหนังสารคดีชั้นดีที่ได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลก และยังไม่เคยมีโอกาสเข้าฉายอย่างจริงจังในประเทศไทยมาก่อน เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้านความบันเทิงและเนื้อหาสาระแก่ผู้ชม

            ระยะเวลา : ช่วงต้นปี 2559

            จำนวนหนัง : ประมาณ 10 เรื่อง (ทุกเรื่องจัดทำคำบรรยายภาษาไทย) *โดยเน้นหนังสารคดีที่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพทั้งในแง่เนื้อหาและการนำเสนอ / มีความหลากหลายของแนวทางและประเด็น / ในการจัดฉายบางเรื่อง จะมีการเสวนาร่วม เพื่อเปิดขอบเขตความรู้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องให้กว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งขึ้น

            สถานที่ : ในโรงภาพยนตร์ กรุงเทพมหานคร / เชียงใหม่ / และจังหวัดใหญ่อื่นๆ *โดยการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาที่สนใจ ในการจัดฉายนอกโรงภาพยนตร์ในบางพื้นที่ด้วย เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงหนังได้ง่ายยิ่งขึ้น

            งบประมาณ :

-        ค่าสิทธิภาพยนตร์ เฉลี่ยเรื่องละ 50,000 บาท (ทั้งหนังที่ซื้อสิทธิครอบคลุมการเผยแพร่ในลักษณะอื่นหลังเทศกาล เช่น DVD และหนังที่เช่าสิทธิมาเพื่อการฉายในเทศกาลเท่านั้น)

-        ค่าจัดทำคำบรรยายภาษาไทย เฉลี่ยเรื่องละ 20,000 บาท

-        ค่าดำเนินการอื่นๆ (ประชาสัมพันธ์, จัดเสวนา, ขนส่ง, ส่งพิจารณาเรตติง, วัสดุ ฯลฯ) ประมาณ 50,000 บาท

            ทีมงาน Doc Club ขอขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณามอบทั้งทุนทรัพย์และกำลังใจให้แก่เราอย่างอบอุ่นมาโดยตลอด เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งต่างๆ ที่เราได้ลงมือทำไปแล้วและที่กำลังจะทำต่อไปจะสามารถเป็นประโยชน์ได้ตามที่ท่านคาดหวังไว้ หากมีข้อแนะนำติชมใดๆ กรุณาติดต่อชี้แนะเราได้ทันทีเลยนะคะ ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ

 

ด้วยมิตรภาพ

ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

ผู้ก่อตั้งและผู้ดำเนินงาน Documentary Club

แผนการใช้เงิน

รายการจำนวนค่าใช้จ่าย
1.ค่าลิขสิทธ์หนังสารคดี 7280,000
2.ค่าแปลและจัดทำซับไตเติลภาษาไทย7120,000
3.ค่าทำระบบ VOD 200,000
รวม 600,000

หมายเหตุ : งบประมาณเพสแรกใช้ 400,000 บาท เพื่อนำหนังสารคดีมาฉาย