เลนส์อนุรักษ์
เปลี่ยนนักล่า ให้มาเป็นนักอนุรักษ์ เปลี่ยนจากการล่อสัตว์ป่าออกมาเพื่อฆ่าหรือขาย ให้มาเป็นดูหรือถ่ายรูปแทน ด้วยการสร้างบังไพรที่มีมาตรฐาน นำช่างภาพจากทั่วโลกมาถ่ายรูปเชิงอนุรักษ์ เพื่อที่ลูกหลานของเรา จะต้องไม่ได้เห็นสัตว์ป่า นก สัตว์น้ำเหล่านี้จากในรูปถ่ายเท่านั้น...
ระยะเวลาโครงการ 18 เดือน พื้นที่ดำเนินโครงการ ป่าไม้และท้องทะเลในประเทศไทย 9 แห่ง
ยอดบริจาคขณะนี้
26,489 บาทเป้าหมาย
150,000 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
สำรวจป่าแก่งกระจาน เตรียมความพร้อมทำที่บังไพรที่มีมาตรฐาน
หลังจากที่โครงการได้เริ่มเปิดระดมทุนผ่านเทใจดอทคอม ระหว่างนั้นทีมงานเลนส์อนุรักษ์ได้รุดทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การลงพื้นที่เข้าสำรวจป่า หาที่สร้างบัง เพื่อดูว่ามาตรฐานบังไพรของไทยเป็นอย่างไร
รวมทั้งขอความร่วมมือกับทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อทำสื่อสร้างสรรค์เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นถึงความสำคัญในอนุรักษ์ป่าและสัตว์ป่า
อีกด้านเรายังพูดคุยกับโรงเรียนในพื้นที่เพื่อสอนเด็กๆให้เป็นไกด์ท่องเที่ยวที่ไม่รบกวนสัตว์ป่าในอนาคต รวมถึงชวนเด็กๆ ทดลองเป็นนักท่องเที่ยวและถ่ายรูปแบบไม่รบกวนสัตว์ป่า
เราจึงขอนำภาพมาฝากกันค่ะ
หารือกับหัวหน้ามานะ เพิ่มพูน ที่ให้คำปรึกษาแก่โครงการเลนส์อนุรักษ์เพื่อการดำเนินงานที่เป็นไปได้จริง ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ การอนุรักษ์อย่างยั่งยืน โดยที่ทุกภาคส่วนมีความสุขในอนาคต
ตลอดจนการสนับสนุนพื้นที่ร่วมกัน ให้เกิดการท่องเที่ยวถ่ายรูปเพื่อร่วมรณรงค์ให้เกิดการอนุรักษ์ธรรมชาติ ป่าไม้ สัตว์ป่า นก ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และสัตว์น้ำ ในอุทยานแห่งชาติอื่นๆ ในอนาคต
แบกกล้องสำรวจป่าแก่งกระจาน
ประเมินสถานที่ที่โครงการจะสามารถช่วยเหลือให้งบประมาณตามจริง โดยการ “ปรับปรุงพัฒนา” หรือ “สร้างใหม่” ไม่ว่าจะเป็น บ่อ บังไพร หรือในบริเวณ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกในโครงการ และสนับสนุนให้มีการท่องเที่ยวชุมชนถ่ายรูปสร้างสรรค์บนพื้นฐานการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน ช่วยให้เกิดรายได้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นทางตรง หรือทางอ้อม
ทดลองให้เด็กๆได้เป็นนักท่องเที่ยวอนุรักษ์
พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่เพื่อสร้างความร่วมมือในการทำงานและชวนเป็นสมาชิกโครงการเลนส์อนุรักษ์
นอกจากนี้เรายังมีกิจกรรมอีกมากมายค่ะ
ท่านใดที่ต้องการติดตามเราอย่างใกล้ชิด หรือ ร่วมเป็นสมาชิกของเรา ติดต่อเราได้ที่ Facebook : lensanurak
และเราจะนำความคืบหน้ามาฝากอีกค่ะ
อ่านต่อ »ช่างภาพจากทั่วโลกมากมาย ยอมจ่ายเงินค่าทริปถ่ายภาพในราคาสูง เพียงเพื่อได้ถ่ายรูปนกที่เป็นสัตว์ป่าหายากในท้องถิ่น เช่น เคนย่าที่ชาวบ้านมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการจัดทริป ซาฟารี ดูแลนักท่องเที่ยวให้อยู่ในโฮมสเตย์ หรือบังกะโล ทานอาหารท้องถิ่น ขึ้นรถกระบะ ไปตามดูยีราฟ เสือ ม้าลาย ที่อยู่ตามธรรมชาติ
เยลโล่สโตนทำได้ ประเทศไทยก็น่าจะทำได้เช่นกัน หากพวกเราช่วยกัน สร้างรายได้ให้ชาวบ้านจากการปกป้องสัตว์ป่าสัตว์น้ำอย่างถูกวิธี
คุณทราบไหมว่า ประเทศไทยเราก็ไม่น้อยหน้าที่ใดในโลก
เรามีนกหายากอย่างน้อย 12 สายพันธุ์
เรามีทะเลที่อุดมสมบูรณ์ติดอันดับท้อปเท็นของโลก ปะการังของเราสวยมาก จนทำให้นักดำน้ำจากทั่วโลก ต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อกระโดดน้ำลงไปดูสิมิลันของเรา
กลุ่มเลนส์อนุรักษ์ จึงเกิดขึ้น เพื่อเปลี่ยนนักล่าให้เป็นนักอนุรักษ์
กลุ่มเลนส์อนุรักษ์ จะเปลี่ยนนักล่าเป็นนักอนุรักษ์ได้อย่างไร
- ทีมงานที่เป็นนักถ่ายภาพ จะเชิญนักถ่ายภาพจากทั่วโลกให้มาถ่ายภาพสัตว์ที่เมืองไทย
- ร่วมอนุรักษ์สัตว์หากยาก ด้วยการสร้างบังไพรที่มีการออกแบบร่วมกันระหว่างชาวบ้านและช่างภาพ
- สนับสนุน และให้ความรู้กับชาวบ้าน จากดักจับสัตว์ เปลี่ยนเป็นดักนักท่องเที่ยว พานักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปแทน
ดร. โชคชัย “บ๊อกซ์” เลี้ยงสุขสันต์และทีมงานที่เป็นนักถ่ายภาพทั้งมืออาชีพและสมัครเล่น จะทำหน้าที่เชื้อเชิญนักถ่ายภาพจากทั่วโลกให้มาถ่ายภาพสัตว์ที่เมืองไทย พร้อมกับการอนุรักษ์สัตว์หายาก ด้วยการดำเนินกิจกรรมสร้างบังไพรที่มีการออกแบบร่วมกันระหว่างชาวบ้านและช่างภาพ
เพราะชาวบ้านท้องถิ่นเท่านั้นที่รู้จักพฤติกรรมของสัตว์น้ำ รู้จักกิ่งไม้ที่นกจะมาเกาะรังนกที่นกเลี้ยงดูฟูมฟักลูกนก ดงปะการังที่เต็มเป็นด้วยฝูงปลา ลักษณะการว่ายทวนน้ำของฝูงปลาเพื่อรอดักจับ
เราต้องสนับสนุน ส่งเสริม หรือสอน ให้ความรู้ชาวบ้านต่างหาก แทนที่จะไปดักจับ ไปดักถ่ายรูปพานักท่องเที่ยวไปซุ่มดูฝูงปลา น่าจะทำรายได้พอๆกันกับการจับหรือล่าสัตว์เหล่านั้น และยังได้อนุรักษ์ธรรมชาติ ไม่ทำลายระบบนิเวศน์อีกด้วย
กลุ่ม “เลนส์อนุรักษ์” ยังมองหาสมาชิกที่มีความรู้ด้านการถ่ายภาพ มีใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ธรรมชาติ มีความเสียสละ มีทั้งองค์ความรู้ และอยากสอน อยากให้ความรู้แก่ชาวบ้านและผู้ที่เกี่ยวข้อง ในแต่ละสถานที่ที่เราจะไปช่วยสอน ช่วยไกด์ แนะนำหรือหาแนวทาง หรือประสานงานกับท้องถิ่น สร้างบังไพรให้แก่ท้องถิ่น เพราะเราเชื่อว่า มีผู้คนมากมายอยากจะช่วยงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตรงนี้ไม่ มากก็น้อย เพียงแต่ไม่มีผู้นำหรือคนที่ลงมือทำจริงๆ เราในฐานะนักวิชาการยินดีจะให้ความรู้ พยายามทำความเข้าใจ และช่วยหาหนทางใดทางหนึ่งที่จะให้สิ่งที่เราตั้งใจนั้นมีความเป็นไปได้จริง
สัตว์ป่า ก็มีชีวิต มีครอบครัว มีระบบนิเวศน์ มีวงจรการล่าที่สมบูรณ์เกื้อกูลกันอยู่ เมื่อสัตว์บางชนิดหายไปไม่อยู่ในพื้นที่ ก็จะทำให้ระบบนิเวศทุกอย่างเสียสูญไปหมด
ดังนั้นเราจะไม่รอให้ทุกอย่างสายเกินไป อยากให้มาช่วยกัน เพื่อลูกหลานของเราจะต้องไม่ได้เห็นสัตว์ป่าสัตว์น้ำเหล่านี้จากรูปถ่ายเท่านั้น...
การดำเนินโครงการ
เราตั้งใจทำโครงการนี้ 18 เดือนใน 9 พื้นที่
- สอนชาวบ้าน เพื่อให้รู้วิธีการสร้างบังไพร หรือองค์ความรู้ที่จะมีรายได้อย่างยั่งยืน ชาวบ้านจะได้รับความรู้ ความเข้าใจในการอนุรักษ์ธรรมชาติทุกประเภท และเราจะหาทางนำเสนอ วิธีการสร้างรายได้รูปแบบใหม่ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่เราไป
- สร้างหรือปรับปรุงบังไพรพื้นที่ละ 1 แห่ง
เราจะทำการอัพเดตโครงการทุกเดือน ยังไงฝากติดตามความคืบหน้าของโครงการเราได้ตลอด หรือสมัครเข้ามาเป็นวิทยากร หรือช่วยโครงการด้านอื่นๆ หรือแค่ช่วยประชาสัมพันธ์ก็ได้ค่ะ
ฝากติดตามผลงาน หรือรูปอัพเดตของโครงการเลนส์อนุรักษ์ได้ที่ Facebook Fanpage: www.facebook.com/lensanurak
หมายเหตุ เบื้องต้นเราจะเริ่มระดมทุนทำ 4 พื้นที่ก่อน จากนั้นเมื่อระดมได้ครบเราจะเปิดเพิ่มเพื่อดำเนินการให้ครบ 9 พื้นที่
พื้นที่ดูนก
- แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
- ปากบารา จ.สตูล
- ดอยลาง ดอยสันจุ๊ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
พื้นที่สัตว์น้ำ
- ปากบารา จ.สตูล
พื้นที่ดูสัตว์ป่า
- กุยบุรี
- ฮาราบารา จ.นราธิวาส
สำหรับอีกสองพื้นที่อยู่ระหว่างการคัดเลือก
ประโยชน์ของโครงการ
- เราจะช่วยเผยแพร่รูปสัตว์ป่า นก สัตว์น้ำ ปะการัง ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามในประเทศไทย กระตุ้นให้ชาวต่างชาติสนใจมาถ่ายรูปธรรมชาติในประเทศไทย ชาวบ้านจะได้มีรายได้จากการต้อนรับ หรือดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่อยอดให้กับการท่องเที่ยวไทย และควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
- ศึกษาหาหนทาง ตลอดจนวิธีการที่จะสอนและแนะนำให้ชาวบ้านมีรายได้อย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยที่ไม่ต้องเบียดเบียนสัตว์ป่าหรือทรัพยากรธรรมชาติ และหันกลับมาอนุรักษ์ปกป้องผืนดินถิ่นที่อยู่ หวงแหน ชี้ให้เห็นคุณค่าถึงทรัพยากรที่เรามี ประเทศไทยสวยงามมากจริงๆ ถ้าเราช่วยกันอนุรักษ์ ดูแล ด้วยความรักในแผ่นดิน
สมาชิกภายในทีม
ดร. โชคชัย “บ๊อกซ์” เลี้ยงสุขสันต์ Dr. Chokchai Leangsuksun (Box) ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง SWEPCO Endowed Professor รองศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ณ มหาวิทยาลัย หลุยเซียร์น่าเทคโนโลยี ประเทศสหรัฐอเมริกา ในอดีตที่ผ่านมา ดร. บ๊อกซ์ ได้เริ่มทำกิจกรรมเพื่อสังคม อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักวิชาชีพไทยในสหรัฐอเมริกา และแคนนาดา รวมถึงเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อเผยแพร่ความรู้ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยแก่นักวิชาการในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยเพื่อเป็นวิทยาทานใน 6-7 ปี ที่ผ่านมา ดร. บ๊อกซ์ ได้ค้นพบตัวเองมากขึ้นจากการถ่ายภาพธรรมชาติและสัตว์ป่าที่หายากและสวยงาม ทำให้คิดได้ว่าจริงๆ แล้ว สุขหรือทุกข์ นั้นขึ้นอยู่กับตัวเราเอง
ในปัจจุบันนี้ ดร. บ๊อกซ์ได้ค้นพบแล้วว่าตัวเขาเองสามารถมีความสุขได้ในทุกครั้งที่ได้บันทึกภาพที่งดงามของธรรมชาติหลายปีที่ผ่านมาผลงานของดร. บ๊อกซ์ เผยแพร่ในหลากหลายรูปแบบ มีผลงานทั้งในระดับชาติและนานาชาติ เช่น วารสารและเว็บไซต์ รวมไปถึงรางวัลเกียรติยศระดับสูงจากวารสาร Nature Best และ เป็นหนึ่งในร้อยภาพที่ดีที่สุดในปี 2015 และ 2016 ของการประกวดภาพถ่ายของสมาคม National Audubon จากภาพที่ร่วมประกวดกว่าหนึ่งหมื่นภาพของบรรดานักถ่ายภาพมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ผลงานของ ดร. บ๊อกซ์เองยังได้จัดแสดงที่ Louisiana Tech Art Gallery และ ห้องแสดงภาพส่วนตัวอีกมากมายในประเทศสหรัฐอเมริกา
ติดตามดร.บ๊อก ได้ที่ Facebook Fanpage “naibox” ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับแบ่งปัน และพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมที่เขาทำร่วมกับแม่วัย 81 ปี ของเขาในประเทศไทย หรือจาก Instragram “naibox”
CHITRALADA S. (YING) ทำ...ตามคำพ่อสอน
"การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะ เป็นของดีมีประโยชน์ ขออย่าได้ถ่ายภาพกันเพื่อความสนุกสนานหรือความสวยงามเท่านั้น จงใช้ภาพให้เกิดคุณค่าแก่สังคมให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม งานศิลปะจะได้ช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อีกแรงหนึ่ง"
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแสดงไว้ ณ the first annual bangkok art & photography event 2007
สำรวจป่าแก่งกระจาน เตรียมความพร้อมทำที่บังไพรที่มีมาตรฐาน
หลังจากที่โครงการได้เริ่มเปิดระดมทุนผ่านเทใจดอทคอม ระหว่างนั้นทีมงานเลนส์อนุรักษ์ได้รุดทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การลงพื้นที่เข้าสำรวจป่า หาที่สร้างบัง เพื่อดูว่ามาตรฐานบังไพรของไทยเป็นอย่างไร
รวมทั้งขอความร่วมมือกับทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อทำสื่อสร้างสรรค์เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นถึงความสำคัญในอนุรักษ์ป่าและสัตว์ป่า
อีกด้านเรายังพูดคุยกับโรงเรียนในพื้นที่เพื่อสอนเด็กๆให้เป็นไกด์ท่องเที่ยวที่ไม่รบกวนสัตว์ป่าในอนาคต รวมถึงชวนเด็กๆ ทดลองเป็นนักท่องเที่ยวและถ่ายรูปแบบไม่รบกวนสัตว์ป่า
เราจึงขอนำภาพมาฝากกันค่ะ
หารือกับหัวหน้ามานะ เพิ่มพูน ที่ให้คำปรึกษาแก่โครงการเลนส์อนุรักษ์เพื่อการดำเนินงานที่เป็นไปได้จริง ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ การอนุรักษ์อย่างยั่งยืน โดยที่ทุกภาคส่วนมีความสุขในอนาคต
ตลอดจนการสนับสนุนพื้นที่ร่วมกัน ให้เกิดการท่องเที่ยวถ่ายรูปเพื่อร่วมรณรงค์ให้เกิดการอนุรักษ์ธรรมชาติ ป่าไม้ สัตว์ป่า นก ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และสัตว์น้ำ ในอุทยานแห่งชาติอื่นๆ ในอนาคต
แบกกล้องสำรวจป่าแก่งกระจาน
ประเมินสถานที่ที่โครงการจะสามารถช่วยเหลือให้งบประมาณตามจริง โดยการ “ปรับปรุงพัฒนา” หรือ “สร้างใหม่” ไม่ว่าจะเป็น บ่อ บังไพร หรือในบริเวณ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกในโครงการ และสนับสนุนให้มีการท่องเที่ยวชุมชนถ่ายรูปสร้างสรรค์บนพื้นฐานการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน ช่วยให้เกิดรายได้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นทางตรง หรือทางอ้อม
ทดลองให้เด็กๆได้เป็นนักท่องเที่ยวอนุรักษ์
พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่เพื่อสร้างความร่วมมือในการทำงานและชวนเป็นสมาชิกโครงการเลนส์อนุรักษ์
นอกจากนี้เรายังมีกิจกรรมอีกมากมายค่ะ
ท่านใดที่ต้องการติดตามเราอย่างใกล้ชิด หรือ ร่วมเป็นสมาชิกของเรา ติดต่อเราได้ที่ Facebook : lensanurak
และเราจะนำความคืบหน้ามาฝากอีกค่ะ
แผนการใช้เงิน
รายละเอียด | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
1.ค่าสื่อการสอนและค่าวิทยากร รวม 500 บาทต่อชุดต่อการสอนชาวบ้าน 1 คน สอนพื้นที่ละ 50 คน 9 พื้นที่
แบ่งออกเป็น 250 บาท ค่าวิทยากร 100 บาท ค่าสื่อการสอน 150 บาท ค่าอาหาร และค่าเดินทาง | 450 ชุด | 225,000 |
2. ค่าสร้างบังไพร พื้นที่ละ 50,000 บาท | 9 พื้นที่ | 450,000 |
รวมเป็นเงิน | 675,000 บาท |
หมายเหตุ เบื้องต้นเราจะเริ่มระดมทุนทำ 2 พื้นที่ก่อน ประมาณ 150,000 บาท จากนั้นเมื่อระดมได้ครบเราจะเปิดเพิ่มเพื่อดำเนินการให้ครบ 9 พื้นที่