โครงการดนตรีพลังบวก

โครงการดนตรีพลังบวก โดยมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข มุ่งสร้างพลักบวกให้กับ กลุ่มเด็ก เยาวชนที่ขาดโอกาสช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในสังคมไทยเพราะดนตรีจะเป็นสื่อการ การเชื่อมโยงสังคมที่มีความหลากหลายในทุกมิติเข้าหากัน และ กลุ่มผู้สูงวัยให้มีสุข ให้มีไฟที่จะลุกขึ้นมาทำสิ่งที่อยากทำอีกครั้ง ร่วมสร้างพลังบวกให้เด็กใน 7 โรงเรียน และ 6 กลุ่มผู้สูงอายุทั่วประเทศกันเถอะ
ระยะเวลาโครงการ 01 มิ.ย. 2565 ถึง 31 ธ.ค. 2565 พื้นที่ดำเนินโครงการ ทั่วประเทศ
ยอดบริจาคขณะนี้
2,761,953 บาทเป้าหมาย
2,750,000 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
กิจกรรมดนตรีจากผู้สุงอายุและเด็ก ในโครงการดนตรีพลังบวก
โครงการดนตรีพลังบวก วงปล่อยแก่
ประกอบไปด้วย ผู้สูงอายุ จาก 6 พื้นที่ ดังต่อไปนี้
- กลุ่มผู้สูงอายุ บ้านคา จังหวัดราชบุรี
- กลุ่มผู้สูงอายุ บ้านเกาะลอย จังหวัดราชบุรี
- กลุ่มผู้สูงอายุ ตำบลบ้านป่าตัน จังหวัดเชียงใหม่
- กลุ่มผู้สูงอายุเทศบาลนครยะลาจังหวัดยะลา
- กลุ่มผู้สูงอายุเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- กลุ่มผู้สูงอายุเทศบาลนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
โดยมีรูปแบบกิจกรรม คือ
- พัฒนาต่อยอดให้เกิดวงปล่อยแก่สำหรับชุมชน
- ดำเนินการสอนและดำเนินแผนบูรณาการให้เข้ากับบริบทในแต่ละพื้นที่
- สร้างความเข้าใจ โดยจัดประชุมในพื้นที่โครงการที่มีศักยภาพโดยให้ชุมชน/ภาครัฐ/ภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อเป็นการสร้างเครือข่าย เปิดพื้นที่สำหรับวงปล่อยแก่เป็นที่รู้จัก และจัดกิจกรรมดนตรีในพื้นที่
- การดำเนินการสอนให้เป็นไปตามบริบทพื้นที่จัดให้มีการเป็นการประชุมร่วมระหว่าง ผู้เรียน(ผู้สูงอายุ/ผู้ดูแล/ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่) (ครูเจ้าหน้าที่/ผู้นำชุมชน) ครูผู้สอน (วิทยากรโดยมูลนิธิฯ)
- กิจกรรมการถอดบทเรียน
โครงการดนตรีพลังบวก วงเด็กภูมิดี
โรงเรียน | รูปแบบกิจกรรม |
โรงเรียนวัดสุวรรณาราม
จังหวัดนครปฐม |
|
โรงเรียนวัดลาดทราย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา |
|
โรงเรียนวัดกุฏิประสิทธิ์
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา |
|
โรงเรียนวัดพระยอม
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา |
|
โรงเรียนบ้านเทอดไทย
จังหวัดเชียงราย |
|
โรงเรียนบ้านห้วยอื่น
จังหวัดเชียงราย |
|
โรงเรียนอนุบาลยะลา
จังหวัดยะลา |
|
ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์
หลังจากเข้าร่วมโครงการปล่อยแก่ ซึ่งมีการฝึกซ้อมร้องเพลงประสานเสียงต่อเนื่อง สม่ำเสมอทุกวันเสาร์อาทิตย์ ครั้งละสองชั่วโมงเพื่อแสดงผลงานในที่สาธารณะ ผลการประเมินสุขภาพจิตโดยรวมด้วยแบบสัมภาษณ์ดัชนีชี้วัดสุขภาพจิตคนไทยฉบับสั้น หรือ TMHI-15 ของผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนดีขึ้น ผู้เข้าร่วมที่เคยมีสุขภาวะทางจิตอยู่ในระดับคนทั่วไปได้คะแนนประเมินเพิ่มเป็นผู้ที่มีสุขภาวะทางจิตดีกว่าคนทั่วไป โดยเห็นผลต่างที่ชัดเจนขึ้นในด้านอารมณ์ด้านบวกที่เพิ่มขึ้น อารมณ์ด้านลบที่ลดลง รวมถึงความสัมพันธ์กับครอบครัวและคนรอบข้างที่ดีขึ้น
จากการสัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมโครงการ การเข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรีโดยใช้การร้องเพลงประสานเสียงทำให้มีการพบปะพูดคุยกับบุคคลอื่นมากขึ้น ทำกิจกรรมร่วมกับบุคคลอื่นมากขึ้น ทำให้พัฒนาในเรื่องความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น รวมทั้งเติมเต็มในบางส่วนที่ผู้เข้าร่วมโครงการขาดไป ทำให้มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นและรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากขึ้น รวมทั้งการร้องเพลงยังใช้เป็นวิธีการอย่างหนึ่งในการคลายความเครียดและลดความกังวลได้ดี ผู้เข้าร่วมโครงการจึงมีความรู้สึกวิตกกังวลลดลงแม้จะยังเผชิญปัญหาในชีวิตอยู่ก็ตาม
สุขภาพจิตก่อนเข้าร่วมโครงการ | สุขภาพจิตหลังเข้าร่วมโครงการ |
ครูป้อม ครูวัยเกษียณที่อาศัยอยู่ในบ้านกับภรรยาและลูกสาวสองคน ได้ทราบว่าตนเองเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเมื่อหนึ่งปีก่อน ตอนแรกที่ทราบรู้สึกไม่สบายใจและพยายามรักษามาตลอดด้วยการผ่าตัดและฉีดยา จนปัจจุบันผลเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่างไรก็ตามเมื่อแพทย์แจ้งว่าสิ้นสุดการรักษา ครูป้อมมีความกังวลอยู่บ้างเรื่องผลเลือดที่จะตรวจในเดือนต่อไปว่ามะเร็งจะกลับคืนมาไหม เพราะน้องชายของตนเคยรักษามะเร็งตับจนดีขึ้นมากแล้ว อยู่ ๆ อาการกลับแย่ลงและเสียชีวิต อย่างไรก็ตามครูป้อมบอกว่าตนเองสามารถจัดการกับความคิดความกังวลต่างๆ ได้เนื่องจากมีดนตรีช่วยคลายเครียด ด้วยเดิมเป็นคนรักในเสียงดนตรีอยู่แล้ว และยังมีที่พึ่งทางใจคือพระเจ้า ทำให้เชื่อว่าตนเองจะสามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้ และยังใช้เวลาที่ว่างหลังเกษียณทุ่มเทกับการช่วยเหลือคนอื่น เพราะคิดว่าทำให้ตนเองมีคุณค่า | ครูป้อมเล่าว่าการได้มาเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ สิ่งที่ครูป้อมได้คือการพัฒนาทักษะการร้องเพลง เดิมครูป้อมเข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรีอยู่แล้วสม่ำเสมอ แต่การเข้าร่วมครั้งนี้ทำให้ตนเองได้พัฒนาทักษะและได้แสดงความสามารถมากขึ้นทำให้รู้สึกมั่นใจในตนเองมากขึ้น รวมทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมทำให้ได้พบกับเพื่อนเก่า จึงทำให้มีความสุขมากขึ้น ส่วนเรื่องความวิตกกังวล ครูป้อมยังมีความกังวลอยู่เรื่องที่ตนเองป่วยเป็นโรคมะเร็งและเรื่องอนาคตที่ไม่แน่นอน แต่การร้องเพลงช่วยทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น ซึ่งครูป้อมใช้คำว่าการร้องเพลงนั้นเป็นชีวิตจิตใจ รวมถึงครูป้อมยังมีการดูแลสุขภาพจิตด้วยวิธีอื่นเช่นการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ คะแนนประเมินสุขภาพจิตของครูป้อมจึงพัฒนาขึ้นจากที่อยู่ระดับคนทั่วไป เป็นอยู่ในระดับดีกว่าคนทั่วไป |
ป้าทอง หญิงสูงวัยที่ตัดสินใจเกษียณก่อนถึงวัยถึง 8 ปีเพื่อออกมารับใช้พระเจ้าด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น ป้าทองช่วยดูแลผู้ป่วยและคนที่มีความทุกข์อยู่เสมอ โดยมีความเชื่อในพระเจ้านำทาง ทำให้ทุกครั้งเวลาที่มีปัญหาต่างๆ เข้ามาในชีวิต ป้าทองจะเปิดพระคัมภีร์และไปโบสถ์ และเชื่อมั่นว่าไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเข้ามาตนเองจะสามารถจัดการได้ ป้าทองยังรักการร้องเพลงแม้ว่าจะคิดว่าตนเองร้องเพลงไม่ได้เก่ง ไม่ได้เรียนมา แต่มีความตั้งใจก็สามารถทำได้ ปัจจุบันป้าทองอาศัยอยู่กับหลานสองคน โดยลูกสาวและลูกเขยอาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง | ป้าทองได้พูดถึงการเข้าร่วมโครงการปล่อยแก่ว่านับเป็นหนึ่งในชีวิตประจำวันของป้าทองแล้ว เดิมทีป้าทองชอบเข้าร่วมกิจกรรมและช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ การเข้าร่วมการร้องเพลงนี้จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ป้าทองได้ทำ และมีความสุข ผลการประเมินสุขภาพจิตของป้าทองยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าคนทั่วไป |
ป้ากช หญิงวัย 72 ปีที่ก่อนหน้าที่ยังคงทำน้ำจิ้มขายด้วยตนเองและมีความภาคภูมิใจในส่วนนี้มาก จนกระทั่งปัญหาสุขภาพเรื่องกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อทำให้ต้องหยุดทำงานในที่สุดเมื่อปีก่อน ทำให้ป้ากชมีความรู้สึกเสียดายแต่ตนเองได้วางแผนชีวิตหลังจากนี้ไว้แล้วว่าคงใช้เวลาที่เหลือพักผ่อน และอาจทำน้ำจิ้มแบ่งปันให้ญาติพี่น้องเป็นบางครั้ง ไม่ถึงขั้นทำเป็นอาชีพเหมือนเมื่อก่อน และใช้เวลาว่างช่วยเหลือดูแลผู้อื่นในชุมชนอยู่เสมอ ป้ากชเชื่อว่าตนเองเป็นคนสู้ชีวิต ผ่านความยากลำบากมามากเพราะเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบขวบ ต้องทำงานส่งน้องเรียนหนังสือ รวมทั้งมีที่พึ่งทางใจคือพระเจ้าทำให้เชื่อว่าตนเองจะสามารถจัดการปัญหาหรือความเครียดที่เกิดขึ้นได้ | ป้ากช บอกว่าตนเองอารมณ์ดีขึ้น มีความกังวลเรื่องอาการเจ็บป่วยคือปวดหลังลดลงหลังจากเข้าร่วมโครงการปล่อยแก่ ทำให้คนรอบข้างสะท้อนว่าป้ากชสุขภาพจิตดีขึ้น เดิมป้ากชมีวิธีคลายความกังวลที่ใช้อยู่เป็นประจำคือการอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐานกับพระเจ้า ในตอนนี้มีวิธีเพิ่มอีกหนึ่งอย่างคือการร้องเพลง ป้ากชมักจะฝึกร้องเพลงในเวลาว่าง โดยเฉพาะเวลาก่อนเข้านอน ทำให้นอนหลับง่ายมากขึ้น
|
ป้าศรีทอง น้องสาวของป้ากช มีความชื่นชมในตัวพี่สาวอย่างมาก เดิมทำงานในโรงพยาบาลและออกมาทำขนมขายเพราะมีความชื่นชอบในด้านนี้ ปัจจุบันส่งต่อกิจการให้ลูกชายทำแล้ว ส่วนตนเองใช้เวลาว่างในการพัฒนาสูตรขนม ตัวป้าศรีทองนั้นมีความต้องการจะช่วยเหลือผู้อื่นและเต็มใจที่จะทำ แต่ในตอนนี้ยังไม่มีโอกาสเนื่องจากกลุ่มในชุมชนที่ตนเองอยู่ตอนนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมให้ทำ ทำให้มีความเบื่อหน่ายอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าตนเองสามารถจัดการปัญหาและความเครียดต่างๆ ได้เพราะเชื่อมั่นในพระเจ้า | ป้าศรีทองรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากขึ้นหลังจากเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะได้พบปะผู้คนมากขึ้น ทำให้ได้รับฟังปัญหาของบุคคลเหล่านั้นและได้เป็นที่ปรึกษาหรือให้กำลังใจ จึงรู้สึกภูมิใจในตนเองที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น รวมทั้งจากเดิมป้าศรีทองมักไม่ค่อยได้เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น การได้ออกมาร้องเพลงประสานเสียงกับทุกคนทำให้อารมณ์ดีขึ้น และพัฒนาไปถึงความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนในครอบครัว ซึ่งลูกชายของป้าศรีทองบอกว่าป้าศรีทองบ่นน้อยลง และกังวลลดลง เนื่องจากตอนนี้ป้าศรีทองเพิ่งทราบว่าตนเองเป็นต้อหิน แต่ไม่ได้กังวลมากเพราะมีการพึ่งพิงศาสนาและการร้องเพลงที่ช่วยลดความวิตกกังวลอยู่ |
ครูกุ้ง ครูกุ้งทราบว่าตนเองเป็นมะเร็งลำไส้เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้รู้สึกตกใจและกังวลอย่างมาก ทำให้นอนไม่หลับอยู่ถึงหนึ่งคืนเต็มๆ หลังจากนั้นพยายามทำใจและบอกตัวเองให้สู้ต่อไป แม้จะมีบางครั้งที่ยังรู้สึกกังวลและคิดมาก เพราะครูกุ้งเป็นคนดูแลครอบครัว จึงกลัวว่าหากวันหนึ่งตนเองเป็นอะไรไป ครอบครัวจะอยู่อย่างไร ทำให้มักพูดกับคนในครอบครัวเสมอว่าหากตนเองเป็นอะไรไปขอให้ทุกคนดูแลตนเองให้ได้ ครูกุ้งมีความตั้งใจที่จะใช้การร้องเพลงเพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ละสร้างความสุขใจ และเต็มใจพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ | ครูกุ้งบอกว่าตั้งแต่ได้เข้าร่วมโครงการปล่อยแก่มา ครูกุ้งรอคอยการมาร่วมฝึกซ้อมร้องเพลงอยู่ตลอด เดิมทีครูกุ้งไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรี การได้มาร้องเพลงประสานเสียงกับผู้อื่นทำให้อารมณ์ดีขึ้น กังวลลดลง เพราะเวลาร้องเพลงจะไม่คิดมาก แม้จะมีความกังวลเรื่องความเจ็บป่วยอยู่บ้างแต่ในตอนนี้การร้องเพลงนับเป็นวิธีคลายเครียดอย่างหนึ่งของครูกุ้งแล้ว และที่สำคัญคือได้มีอะไรทำมากขึ้น เช่นเวลามาฝึกซ้อมร้องเพลง ครูกุ้งมีหน้าที่ช่วยจัดแถว ช่วยเหลือเรื่องการจัดการในกลุ่ม ทำให้เกิดความมั่นใจในตนเอง รู้สึกตนเองมีคุณค่ามากขึ้น เนื่องจากได้ความรู้สึกเป็นผู้นำกลับมาจากเดิมที่สูญเสียไปเมื่อตอนทราบว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็ง รวมทั้งคนในครอบครัวยังสะท้อนเรื่องอารมณ์และความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอีกด้วย คะแนนประเมินสุขภาพจิตของครุกุ้งจึงเพิ่มขึ้นจากระดับคนทั่วไปเป็นดีกว่าคนทั่วไป |
รูปภาพกิจกรรม
แสดงดนตรี จากพี่ ๆ ตัวแทนวงปล่อยแก่ ในงาน SET AWARDS 2022 วันที่ 28 ตุลาคม 2565 ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กิจกรรม การร้องเพลงเพื่อผู้ป่วยติดเตียง ในตำบลบ้านเกาะลอย จังหวัดราชบุรี วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565
การแสดงดนตรีเพื่อต้อนรับ นายนุรักษ์ มาปราณีต องคมนตรี ตรวจเยี่ยมและรับฟังผลการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านเทอดไทย วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2565
กิจกรรมการแสดง วันกีฬาสี ณ โรงเรียนบ้านห้วนอื้น จังหวัดเชียงราย วันที่ 28 ธันวาคม 2565
กิจกรรมค่ายดนตรี เพื่อการปรับพื้นฐานและการพัฒนาต่อยอดดนตรีและการแสดงขับร้องของนักเรียนอนุบาลยะลา
การแสดงดนตรีไทย กิจกรรมค่ายดนตรี วงเด็กภูมิดี ณ โรงเรียนวัดกุฎีประสิทธิ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 26 ธันวาคม 2565
วิดีโอกิจกรรมอ่านต่อ »
ปัญหาสังคมและวิธีการแก้ไขปัญหา
เด็กภูมิดีคือภูมิคุ้มกันจากปัจจัยแวดล้อมที่จะทำให้เด็กห่างไกลจากสิ่งยั่วยุ ล่อแหลม พวกเขามีกิจกรรมที่ดีแล้ว คนในชุมชนควรสนับสนุนด้วยวิธีการที่ถูกต้อง กลุ่นคนในทำงานในมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข มีความเชื่อว่าดนตรีจะช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในสังคมไทย เพราะดนตรีจะเป็นสื่อการ การเชื่อมโยงสังคมที่มีความหลากหลายในทุกมิติเข้าหากันได้ เด็กในสังคมไทยที่อยู่ในโรงเรียนชนบท หรือแม้แต่โรงเรียนในเมืองยังขาดครูดนตรี ขาดเครื่องดนตรีที่ดี ไม่ได้รับการสนับสนุนในการเรียนดนตรี ทำให้เด็กที่มีความสามารถทางด้านดนตรี หรือเด็กที่มีพรสวรรค์ ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วตนเองมีความสามารถ เพราะระบบการศึกษาไทยมุ่งเน้นการเรียนวิชาการ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับดนตรี ศิลปะ เท่าที่ควรทำให้เด็กที่ไม่มีความถนัดทางด้านวิชาการ ไม่มีทางเลือก
มูลนิธิจึงเข้าไปส่งเสริมให้เด็กขาดโอกาสให้ได้รับการส่งเสริมการศึกษาด้านวิชาดนตรี สำหรับรูปแบบการเรียนการสอนดนตรีที่จะขึ้นจะอยู่กับบริบทของแก่ละโรงเรียนได้ วงดนตรีไทย วงดนตรีสากล วงเครื่องสายตะวันตก วงขับร้องประสานเสียง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กได้ค้นพบตนเองได้อีกมิติหนึ่ง กลุ่มเป้าหมายของกล่มเด็กประกอบด้วย
1. โรงเรียนวัดสุวรรณาราม ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม : กิจกรรมการสอนเป็นดนตรีสากล วงเมโลเดียน
2. โรงเรียนวัดลาดทราย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมการสอนวงดนตรีไทย วงปี่พาทย์
3. โรงเรียนวัดกุฏีประสิทธิ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมสอนวงดนตรีไทย
4. โรงเรียนวัดพยอม ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมสอนดนตรีไทย วงปี่พาทย์ และวงกลองยาว
5. โรงเรียนเทอดไทย ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย : กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมสอนวงดนตรีเครื่องสายตะวันตก
6. โรงเรียนบ้านห้วยอื้น ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย : กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมสอนวงเมโลเดียน
7. โรงเรียนอนุบาลยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา : กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมสอนวงขับร้องประสานเสียง
ขณะเดียวกันกลุ่มคนทำงานในมูลนิธิเล็งเห็นว่าดนตรีจะช่วยพัฒนาศักยภาพทางสมอง ร่างกาย จิตใจ ของผู้สูงอายุไม่ให้เสื่อมไปตามกาลเวลา กิจกรรมการสอนดนตรีสำหรับผู้สูงอายุเป็นการสร้างสังคมใหม่ให้กับผู้สูงอายุที่อยู่ในวัยเกษียณให้ได้ทำกิจกรรมดนตรีร่วมกันในรูปแบบของวงขับร้องประสานเสียง เกิดเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถขับร้องเพลงประสานเสียงได้ ทำให้พวกเขามีความสดชื่น เบิกบาน เพราะสามารถใช้เสียงเพลงให้ความสุขกับผู้อื่นได้ ทางมูลนิธิจึงตั้งใจทำวงประสานเสียงให้กลุ่มผู้สูงอายุ 4 พื้นที่ประกอบด้วย
1.กลุ่มผู้สุงอายุ ตำบลบ้านคา อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี
2.กลุ่มผู้สูงอายุ ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
3.กลุ่มผู้สูงอายุ ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
4.กลุ่มผู้สูงอายุ เทศบาลนครยะลา จังหวัดยะลา
5. กลุ่มผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
6. กลุ่มผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
กิจกรรมของทั้งสองกลุ่มจะดำเนินการตลอด 1 ปี ซึ่งจะมีทั้งการสอน และการเปิดพื้นที่ให้เด็กและผู้สูงวัยได้จัดกิจกรรมแสดงด้วย
ขั้นตอนการดำเนินโครงการ
1. พัฒนาต่อยอดชุมชน/โรงเรียนต้นแบบ
2. ดำเนินแผนบูรณาการสร้างความเข้าใจ โดยจัดประชุมในพื้นที่โครงการใหม่ ที่มีศักยภาพเป็นพื้นที่ตัวแทน โดยเริ่มทำก่อนมีการดำเนินการสอน ในที่นี้เป็นการประชุมร่วมระหว่าง ผู้เรียน (เด็ก/ ผู้สูงอายุ/เด็กที่อยู่ในสถานพินิจ) ผู้ดูแลพื้นที่ (ครู/เจ้าหน้าที่/ผู้นำชุมชน) ครูผู้สอน (วิทยากรโดยมูลนิธิ)
3. ดำเนินการสอน โดยวิทยากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในด้านดนตรีโดยเฉพาะ
4. การติดตามผลการพัฒนาต่อยอดชุมชน/โรงเรียนต้นแบบ
5. รับสมัครและงานเปิดตัวพื้นที่โครงการใหม่ เพื่อขยายผลความสำเร็จ
6. ดำเนินการสอน / ทำแผนบูรณาการจัดทำเครื่องมือสอนให้สอดคล้องกับพื้นที่ ตามอัตลักษณ์และบริบทของแต่ละพื้นที่ ครอบคลุม จัดทำโน้ตเพลง จัดหาพื้นที่และอุปกรณ์การสอนและ เรียบเรียงเนื้อหาการสอน
7. ติดตามผล และการพัฒนาต่อยอดชุมชน/โรงเรียนต้นแบบ
8. จัดการแสดง/ถอดบทเรียน
ผู้รับผิดชอบโครงการ
มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข
รศ.ดร. สุกรี เจริญสุข ประธานมูลนิธิ
นางสุพินดา มโนมัยพิบูลย์ ผู้จัดการมูลนิธิ
นายสินิทธ์ ทองเจริญลาภ นักวิชาการ
นายอัครพล รัตนวงศากุล ผู้ประสานงาน

กิจกรรมดนตรีจากผู้สุงอายุและเด็ก ในโครงการดนตรีพลังบวก
โครงการดนตรีพลังบวก วงปล่อยแก่
ประกอบไปด้วย ผู้สูงอายุ จาก 6 พื้นที่ ดังต่อไปนี้
- กลุ่มผู้สูงอายุ บ้านคา จังหวัดราชบุรี
- กลุ่มผู้สูงอายุ บ้านเกาะลอย จังหวัดราชบุรี
- กลุ่มผู้สูงอายุ ตำบลบ้านป่าตัน จังหวัดเชียงใหม่
- กลุ่มผู้สูงอายุเทศบาลนครยะลาจังหวัดยะลา
- กลุ่มผู้สูงอายุเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- กลุ่มผู้สูงอายุเทศบาลนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
โดยมีรูปแบบกิจกรรม คือ
- พัฒนาต่อยอดให้เกิดวงปล่อยแก่สำหรับชุมชน
- ดำเนินการสอนและดำเนินแผนบูรณาการให้เข้ากับบริบทในแต่ละพื้นที่
- สร้างความเข้าใจ โดยจัดประชุมในพื้นที่โครงการที่มีศักยภาพโดยให้ชุมชน/ภาครัฐ/ภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อเป็นการสร้างเครือข่าย เปิดพื้นที่สำหรับวงปล่อยแก่เป็นที่รู้จัก และจัดกิจกรรมดนตรีในพื้นที่
- การดำเนินการสอนให้เป็นไปตามบริบทพื้นที่จัดให้มีการเป็นการประชุมร่วมระหว่าง ผู้เรียน(ผู้สูงอายุ/ผู้ดูแล/ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่) (ครูเจ้าหน้าที่/ผู้นำชุมชน) ครูผู้สอน (วิทยากรโดยมูลนิธิฯ)
- กิจกรรมการถอดบทเรียน
โครงการดนตรีพลังบวก วงเด็กภูมิดี
โรงเรียน | รูปแบบกิจกรรม |
โรงเรียนวัดสุวรรณาราม
จังหวัดนครปฐม |
|
โรงเรียนวัดลาดทราย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา |
|
โรงเรียนวัดกุฏิประสิทธิ์
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา |
|
โรงเรียนวัดพระยอม
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา |
|
โรงเรียนบ้านเทอดไทย
จังหวัดเชียงราย |
|
โรงเรียนบ้านห้วยอื่น
จังหวัดเชียงราย |
|
โรงเรียนอนุบาลยะลา
จังหวัดยะลา |
|
ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์
หลังจากเข้าร่วมโครงการปล่อยแก่ ซึ่งมีการฝึกซ้อมร้องเพลงประสานเสียงต่อเนื่อง สม่ำเสมอทุกวันเสาร์อาทิตย์ ครั้งละสองชั่วโมงเพื่อแสดงผลงานในที่สาธารณะ ผลการประเมินสุขภาพจิตโดยรวมด้วยแบบสัมภาษณ์ดัชนีชี้วัดสุขภาพจิตคนไทยฉบับสั้น หรือ TMHI-15 ของผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนดีขึ้น ผู้เข้าร่วมที่เคยมีสุขภาวะทางจิตอยู่ในระดับคนทั่วไปได้คะแนนประเมินเพิ่มเป็นผู้ที่มีสุขภาวะทางจิตดีกว่าคนทั่วไป โดยเห็นผลต่างที่ชัดเจนขึ้นในด้านอารมณ์ด้านบวกที่เพิ่มขึ้น อารมณ์ด้านลบที่ลดลง รวมถึงความสัมพันธ์กับครอบครัวและคนรอบข้างที่ดีขึ้น
จากการสัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมโครงการ การเข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรีโดยใช้การร้องเพลงประสานเสียงทำให้มีการพบปะพูดคุยกับบุคคลอื่นมากขึ้น ทำกิจกรรมร่วมกับบุคคลอื่นมากขึ้น ทำให้พัฒนาในเรื่องความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น รวมทั้งเติมเต็มในบางส่วนที่ผู้เข้าร่วมโครงการขาดไป ทำให้มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นและรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากขึ้น รวมทั้งการร้องเพลงยังใช้เป็นวิธีการอย่างหนึ่งในการคลายความเครียดและลดความกังวลได้ดี ผู้เข้าร่วมโครงการจึงมีความรู้สึกวิตกกังวลลดลงแม้จะยังเผชิญปัญหาในชีวิตอยู่ก็ตาม
สุขภาพจิตก่อนเข้าร่วมโครงการ | สุขภาพจิตหลังเข้าร่วมโครงการ |
ครูป้อม ครูวัยเกษียณที่อาศัยอยู่ในบ้านกับภรรยาและลูกสาวสองคน ได้ทราบว่าตนเองเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเมื่อหนึ่งปีก่อน ตอนแรกที่ทราบรู้สึกไม่สบายใจและพยายามรักษามาตลอดด้วยการผ่าตัดและฉีดยา จนปัจจุบันผลเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่างไรก็ตามเมื่อแพทย์แจ้งว่าสิ้นสุดการรักษา ครูป้อมมีความกังวลอยู่บ้างเรื่องผลเลือดที่จะตรวจในเดือนต่อไปว่ามะเร็งจะกลับคืนมาไหม เพราะน้องชายของตนเคยรักษามะเร็งตับจนดีขึ้นมากแล้ว อยู่ ๆ อาการกลับแย่ลงและเสียชีวิต อย่างไรก็ตามครูป้อมบอกว่าตนเองสามารถจัดการกับความคิดความกังวลต่างๆ ได้เนื่องจากมีดนตรีช่วยคลายเครียด ด้วยเดิมเป็นคนรักในเสียงดนตรีอยู่แล้ว และยังมีที่พึ่งทางใจคือพระเจ้า ทำให้เชื่อว่าตนเองจะสามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้ และยังใช้เวลาที่ว่างหลังเกษียณทุ่มเทกับการช่วยเหลือคนอื่น เพราะคิดว่าทำให้ตนเองมีคุณค่า | ครูป้อมเล่าว่าการได้มาเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ สิ่งที่ครูป้อมได้คือการพัฒนาทักษะการร้องเพลง เดิมครูป้อมเข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรีอยู่แล้วสม่ำเสมอ แต่การเข้าร่วมครั้งนี้ทำให้ตนเองได้พัฒนาทักษะและได้แสดงความสามารถมากขึ้นทำให้รู้สึกมั่นใจในตนเองมากขึ้น รวมทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมทำให้ได้พบกับเพื่อนเก่า จึงทำให้มีความสุขมากขึ้น ส่วนเรื่องความวิตกกังวล ครูป้อมยังมีความกังวลอยู่เรื่องที่ตนเองป่วยเป็นโรคมะเร็งและเรื่องอนาคตที่ไม่แน่นอน แต่การร้องเพลงช่วยทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น ซึ่งครูป้อมใช้คำว่าการร้องเพลงนั้นเป็นชีวิตจิตใจ รวมถึงครูป้อมยังมีการดูแลสุขภาพจิตด้วยวิธีอื่นเช่นการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ คะแนนประเมินสุขภาพจิตของครูป้อมจึงพัฒนาขึ้นจากที่อยู่ระดับคนทั่วไป เป็นอยู่ในระดับดีกว่าคนทั่วไป |
ป้าทอง หญิงสูงวัยที่ตัดสินใจเกษียณก่อนถึงวัยถึง 8 ปีเพื่อออกมารับใช้พระเจ้าด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น ป้าทองช่วยดูแลผู้ป่วยและคนที่มีความทุกข์อยู่เสมอ โดยมีความเชื่อในพระเจ้านำทาง ทำให้ทุกครั้งเวลาที่มีปัญหาต่างๆ เข้ามาในชีวิต ป้าทองจะเปิดพระคัมภีร์และไปโบสถ์ และเชื่อมั่นว่าไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเข้ามาตนเองจะสามารถจัดการได้ ป้าทองยังรักการร้องเพลงแม้ว่าจะคิดว่าตนเองร้องเพลงไม่ได้เก่ง ไม่ได้เรียนมา แต่มีความตั้งใจก็สามารถทำได้ ปัจจุบันป้าทองอาศัยอยู่กับหลานสองคน โดยลูกสาวและลูกเขยอาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง | ป้าทองได้พูดถึงการเข้าร่วมโครงการปล่อยแก่ว่านับเป็นหนึ่งในชีวิตประจำวันของป้าทองแล้ว เดิมทีป้าทองชอบเข้าร่วมกิจกรรมและช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ การเข้าร่วมการร้องเพลงนี้จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ป้าทองได้ทำ และมีความสุข ผลการประเมินสุขภาพจิตของป้าทองยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าคนทั่วไป |
ป้ากช หญิงวัย 72 ปีที่ก่อนหน้าที่ยังคงทำน้ำจิ้มขายด้วยตนเองและมีความภาคภูมิใจในส่วนนี้มาก จนกระทั่งปัญหาสุขภาพเรื่องกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อทำให้ต้องหยุดทำงานในที่สุดเมื่อปีก่อน ทำให้ป้ากชมีความรู้สึกเสียดายแต่ตนเองได้วางแผนชีวิตหลังจากนี้ไว้แล้วว่าคงใช้เวลาที่เหลือพักผ่อน และอาจทำน้ำจิ้มแบ่งปันให้ญาติพี่น้องเป็นบางครั้ง ไม่ถึงขั้นทำเป็นอาชีพเหมือนเมื่อก่อน และใช้เวลาว่างช่วยเหลือดูแลผู้อื่นในชุมชนอยู่เสมอ ป้ากชเชื่อว่าตนเองเป็นคนสู้ชีวิต ผ่านความยากลำบากมามากเพราะเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบขวบ ต้องทำงานส่งน้องเรียนหนังสือ รวมทั้งมีที่พึ่งทางใจคือพระเจ้าทำให้เชื่อว่าตนเองจะสามารถจัดการปัญหาหรือความเครียดที่เกิดขึ้นได้ | ป้ากช บอกว่าตนเองอารมณ์ดีขึ้น มีความกังวลเรื่องอาการเจ็บป่วยคือปวดหลังลดลงหลังจากเข้าร่วมโครงการปล่อยแก่ ทำให้คนรอบข้างสะท้อนว่าป้ากชสุขภาพจิตดีขึ้น เดิมป้ากชมีวิธีคลายความกังวลที่ใช้อยู่เป็นประจำคือการอ่านพระคัมภีร์หรืออธิษฐานกับพระเจ้า ในตอนนี้มีวิธีเพิ่มอีกหนึ่งอย่างคือการร้องเพลง ป้ากชมักจะฝึกร้องเพลงในเวลาว่าง โดยเฉพาะเวลาก่อนเข้านอน ทำให้นอนหลับง่ายมากขึ้น
|
ป้าศรีทอง น้องสาวของป้ากช มีความชื่นชมในตัวพี่สาวอย่างมาก เดิมทำงานในโรงพยาบาลและออกมาทำขนมขายเพราะมีความชื่นชอบในด้านนี้ ปัจจุบันส่งต่อกิจการให้ลูกชายทำแล้ว ส่วนตนเองใช้เวลาว่างในการพัฒนาสูตรขนม ตัวป้าศรีทองนั้นมีความต้องการจะช่วยเหลือผู้อื่นและเต็มใจที่จะทำ แต่ในตอนนี้ยังไม่มีโอกาสเนื่องจากกลุ่มในชุมชนที่ตนเองอยู่ตอนนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมให้ทำ ทำให้มีความเบื่อหน่ายอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าตนเองสามารถจัดการปัญหาและความเครียดต่างๆ ได้เพราะเชื่อมั่นในพระเจ้า | ป้าศรีทองรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากขึ้นหลังจากเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะได้พบปะผู้คนมากขึ้น ทำให้ได้รับฟังปัญหาของบุคคลเหล่านั้นและได้เป็นที่ปรึกษาหรือให้กำลังใจ จึงรู้สึกภูมิใจในตนเองที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น รวมทั้งจากเดิมป้าศรีทองมักไม่ค่อยได้เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น การได้ออกมาร้องเพลงประสานเสียงกับทุกคนทำให้อารมณ์ดีขึ้น และพัฒนาไปถึงความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนในครอบครัว ซึ่งลูกชายของป้าศรีทองบอกว่าป้าศรีทองบ่นน้อยลง และกังวลลดลง เนื่องจากตอนนี้ป้าศรีทองเพิ่งทราบว่าตนเองเป็นต้อหิน แต่ไม่ได้กังวลมากเพราะมีการพึ่งพิงศาสนาและการร้องเพลงที่ช่วยลดความวิตกกังวลอยู่ |
ครูกุ้ง ครูกุ้งทราบว่าตนเองเป็นมะเร็งลำไส้เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้รู้สึกตกใจและกังวลอย่างมาก ทำให้นอนไม่หลับอยู่ถึงหนึ่งคืนเต็มๆ หลังจากนั้นพยายามทำใจและบอกตัวเองให้สู้ต่อไป แม้จะมีบางครั้งที่ยังรู้สึกกังวลและคิดมาก เพราะครูกุ้งเป็นคนดูแลครอบครัว จึงกลัวว่าหากวันหนึ่งตนเองเป็นอะไรไป ครอบครัวจะอยู่อย่างไร ทำให้มักพูดกับคนในครอบครัวเสมอว่าหากตนเองเป็นอะไรไปขอให้ทุกคนดูแลตนเองให้ได้ ครูกุ้งมีความตั้งใจที่จะใช้การร้องเพลงเพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ละสร้างความสุขใจ และเต็มใจพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ | ครูกุ้งบอกว่าตั้งแต่ได้เข้าร่วมโครงการปล่อยแก่มา ครูกุ้งรอคอยการมาร่วมฝึกซ้อมร้องเพลงอยู่ตลอด เดิมทีครูกุ้งไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรี การได้มาร้องเพลงประสานเสียงกับผู้อื่นทำให้อารมณ์ดีขึ้น กังวลลดลง เพราะเวลาร้องเพลงจะไม่คิดมาก แม้จะมีความกังวลเรื่องความเจ็บป่วยอยู่บ้างแต่ในตอนนี้การร้องเพลงนับเป็นวิธีคลายเครียดอย่างหนึ่งของครูกุ้งแล้ว และที่สำคัญคือได้มีอะไรทำมากขึ้น เช่นเวลามาฝึกซ้อมร้องเพลง ครูกุ้งมีหน้าที่ช่วยจัดแถว ช่วยเหลือเรื่องการจัดการในกลุ่ม ทำให้เกิดความมั่นใจในตนเอง รู้สึกตนเองมีคุณค่ามากขึ้น เนื่องจากได้ความรู้สึกเป็นผู้นำกลับมาจากเดิมที่สูญเสียไปเมื่อตอนทราบว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็ง รวมทั้งคนในครอบครัวยังสะท้อนเรื่องอารมณ์และความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอีกด้วย คะแนนประเมินสุขภาพจิตของครุกุ้งจึงเพิ่มขึ้นจากระดับคนทั่วไปเป็นดีกว่าคนทั่วไป |
รูปภาพกิจกรรม
แสดงดนตรี จากพี่ ๆ ตัวแทนวงปล่อยแก่ ในงาน SET AWARDS 2022 วันที่ 28 ตุลาคม 2565 ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กิจกรรม การร้องเพลงเพื่อผู้ป่วยติดเตียง ในตำบลบ้านเกาะลอย จังหวัดราชบุรี วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565
การแสดงดนตรีเพื่อต้อนรับ นายนุรักษ์ มาปราณีต องคมนตรี ตรวจเยี่ยมและรับฟังผลการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านเทอดไทย วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2565
กิจกรรมการแสดง วันกีฬาสี ณ โรงเรียนบ้านห้วนอื้น จังหวัดเชียงราย วันที่ 28 ธันวาคม 2565
กิจกรรมค่ายดนตรี เพื่อการปรับพื้นฐานและการพัฒนาต่อยอดดนตรีและการแสดงขับร้องของนักเรียนอนุบาลยะลา
การแสดงดนตรีไทย กิจกรรมค่ายดนตรี วงเด็กภูมิดี ณ โรงเรียนวัดกุฎีประสิทธิ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 26 ธันวาคม 2565
วิดีโอกิจกรรม
แผนการใช้เงิน
ลำดับ | รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|---|
1 | โรงเรียนวัดสุวรรณาราม ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม กิจกรรมการสอนเป็นดนตรีสากล วงเมโลเดียน กิจกรรมการสอนพื้นที่ต่อเนื่อง -ค่าวิทยากร 2,500 บาท x 2 คน X 12 ครั้ง = 60,000 บาท- ค่าทำสื่อการสอน = 10,000 บาท - ค่าเดินทางวิทยากร 2,500 บาท x 12 ครั้ง = 30,000 บาท | 1ปี | 100,000.00 |
2 | โรงเรียนวัดลาดทราย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมการสอนวงดนตรีไทย วงปี่พาทย์ กิจกรรมการสอนพื้นที่ต่อเนื่อง -ค่าวิทยากร 2,500 บาท x 2 คน X 12 ครั้ง = 60,000 บาท- ค่าทำสื่อการสอน = 10,000 บาท - ค่าเดินทางวิทยากร 2,500 บาท x 12 ครั้ง = 30,000 บาท | 1ปี | 100,000.00 |
3 | โรงเรียนวัดกุฏีประสิทธิ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมสอนวงดนตรีไทย กิจกรรมการสอนพื้นที่ต่อเนื่อง -ค่าวิทยากร 2,500 บาท x 2 คน X 12 ครั้ง = 60,000 บาท- ค่าทำสื่อการสอน = 10,000 บาท - ค่าเดินทางวิทยากร 2,500 บาท x 12 ครั้ง = 30,000 บาท | 1ปี | 100,000.00 |
4 | โรงเรียนวัดพยอม ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมสอนดนตรีไทย วงปี่พาทย์ และวงกลองยาว กิจกรรมการสอนพื้นที่ต่อเนื่อง -ค่าวิทยากร 2,500 บาท x 2 คน X 12 ครั้ง = 60,000 บาท- ค่าทำสื่อการสอน = 10,000 บาท - ค่าเดินทางวิทยากร 2,500 บาท x 12 ครั้ง = 30,000 บาท | 1ปี | 100,000.00 |
5 | โรงเรียนเทอดไทย ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมสอนวงดนตรีเครื่องสายตะวันตก กิจกรรมการสอนพื้นที่ต่อเนื่อง -ค่าวิทยากร 2,500 บาท x 2 คน X 12 ครั้ง = 60,000 บาท- ค่าทำสื่อการสอน = 10,000 บาท - ค่าเดินทางวิทยากร 2,500 บาท x 12 ครั้ง = 30,000 บาท | 1ปี | 100,000.00 |
6 | โรงเรียนบ้านห้วยอื้น ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมสอนวงเมโลเดียน พื้นที่ใหม่ที่ยังไม่เคยทำกิจกรรม -ค่าวิทยากร 2,500 x 2 คน x 24 ครั้ง = 120,000 บาท -ค่าอาหารว่าง 50 บาท x 40 ครั้ง x 24 ครั้ง 48,000 บาท -ค่าเดินทาง 2,500 บาท x 24 ครั้ง = 60,000 บาท -ค่าจัดกิจกรรมการแสดง = 50,000 บาท -ค่าเรียบเรียงเพลงสำหรับการขับร้องประสานเสียงและทำโน้ต 4,000 x 10 = 40,000 บาท -ค่าวิทยาพิเศษและค่าเดินทางเหมาจ่ายรวมค่าเดินทาง 8,000 x 2 คน x 4 ครั้ง = 64,000 บาท -ค่าครุภัณฑ์ในการทำกิจกรรมการเรียนการสอนตลอดโครงการ 15,500 บาท | 1ปี | 397,500.00 |
7 | โรงเรียนอนุบาลยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา กิจกรรมการสอนเป็นกิจกรรมสอนวงขับร้องประสานเสียง พื้นที่ใหม่ที่ยังไม่เคยทำกิจกรรม -ค่าวิทยากร 2,500 x 2 คน x 24 ครั้ง = 120,000 บาท -ค่าอาหารว่าง 50 บาท x 40 ครั้ง x 24 ครั้ง 48,000 บาท -ค่าเดินทาง 2,500 บาท x 24 ครั้ง = 60,000 บาท -ค่าจัดกิจกรรมการแสดง = 50,000 บาท -ค่าเรียบเรียงเพลงสำหรับการขับร้องประสานเสียงและทำโน้ต 4,000 x 10 = 40,000 บาท -ค่าวิทยาพิเศษและค่าเดินทางเหมาจ่ายรวมค่าเดินทาง 8,000 x 2 คน x 4 ครั้ง = 64,000 บาท -ค่าครุภัณฑ์ในการทำกิจกรรมการเรียนการสอนตลอดโครงการ 15,500 บาท | 1ปี | 397,500.00 |
8 | กลุ่มผู้สุงอายุ ตำบลบ้านคา อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี กิจกรรมการสอนพื้นที่ต่อเนื่อง -ค่าวิทยากร 2,500 บาท x 2 คน X 12 ครั้ง = 60,000 บาท - ค่าทำสื่อการสอน = 10,000 บาท - ค่าเดินทางวิทยากร 2,500 บาท x 12 ครั้ง = 30,000 บาท | 100,000.00 | |
9 | กลุ่มผู้สูงอายุ ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กิจกรรมการสอนพื้นที่ต่อเนื่อง -ค่าวิทยากร 2,500 บาท x 2 คน X 12 ครั้ง = 60,000 บาท - ค่าทำสื่อการสอน = 10,000 บาท - ค่าเดินทางวิทยากร 2,500 บาท x 12 ครั้ง = 30,000 บาท | 100,000.00 | |
10 | กลุ่มผู้สูงอายุ ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี กิจกรรมการสอนพื้นที่ต่อเนื่อง -ค่าวิทยากร 2,500 บาท x 2 คน X 12 ครั้ง = 60,000 บาท - ค่าทำสื่อการสอน = 10,000 บาท - ค่าเดินทางวิทยากร 2,500 บาท x 12 ครั้ง = 30,000 บาท | 100,000.00 | |
11 | กลุ่มผู้สูงอายุ เทศบาลนครยะลา จังหวัดยะลา กิจกรรมการสอนพื้นที่ต่อเนื่อง -ค่าวิทยากร 2,500 บาท x 2 คน X 12 ครั้ง = 60,000 บาท - ค่าทำสื่อการสอน = 10,000 บาท - ค่าเดินทางวิทยากร 2,500 บาท x 12 ครั้ง = 30,000 บาท | 100,000.00 | |
12 | กลุ่มผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ พื้นที่ใหม่ที่ยังไม่เคยทำกิจกรรม -ค่าวิทยากร 2,500 x 2 คน x 24 ครั้ง = 120,000 บาท -ค่าอาหารว่าง 50 บาท x 40 ครั้ง x 24 ครั้ง 48,000 บาท -ค่าเดินทาง 2,500 บาท x 24 ครั้ง = 60,000 บาท -ค่าจัดกิจกรรมการแสดง = 50,000 บาท -ค่าเรียบเรียงเพลงสำหรับการขับร้องประสานเสียงและทำโน้ต 4,000 x 10 = 40,000 บาท -ค่าวิทยาพิเศษและค่าเดินทางเหมาจ่ายรวมค่าเดินทาง 8,000 x 2 คน x 4 ครั้ง = 64,000 บาท -ค่าครุภัณฑ์ในการทำกิจกรรมการเรียนการสอนตลอดโครงการ 15,500 บาท | 397,500.00 | |
13 | กลุ่มผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ใหม่ที่ยังไม่เคยทำกิจกรรม -ค่าวิทยากร 2,500 x 2 คน x 24 ครั้ง = 120,000 บาท -ค่าอาหารว่าง 50 บาท x 40 ครั้ง x 24 ครั้ง 48,000 บาท -ค่าเดินทาง 2,500 บาท x 24 ครั้ง = 60,000 บาท -ค่าจัดกิจกรรมการแสดง = 50,000 บาท -ค่าเรียบเรียงเพลงสำหรับการขับร้องประสานเสียงและทำโน้ต 4,000 x 10 = 40,000 บาท -ค่าวิทยาพิเศษและค่าเดินทางเหมาจ่ายรวมค่าเดินทาง 8,000 x 2 คน x 4 ครั้ง = 64,000 บาท -ค่าครุภัณฑ์ในการทำกิจกรรมการเรียนการสอนตลอดโครงการ 15,500 บาท | 397,500.00 |